รองฯสนั่นไม่เชื่อยุบสภาแล้วบ้านเมืองสงบ เพื่อไทยยันไม่เลื่อนม็อบ10ธ.ค. เล็งนัดชุมนุมใหญ่หลังปีใหม่

พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีแกนนำคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ว่า ขณะนี้กำลังคุยกันอยู่ แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการชุมนุมแบบเงียบ ๆ เป็นไปโดยสงบ คิดว่าคงไม่มีการเลื่อนการชุมนุม เพราะสิ่งที่แกนนำเขานัดชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคม เพราะเป็นวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับประชาธิปไตย

สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เราเลื่อนมาชุมนุมหลังวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อแสดงความจงรักภักดี การชุมนุมวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ไม่ได้มุ่งหวังชุมนุมยืดเยื้อให้กระเทือนรัฐบาล แต่จะเน้นให้ความรู้ประชาชน แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะสร้างเงื่อนไขอะไรให้ผู้ชุมนุมหรือไม่ ทั้งนี้ เราจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในช่วงหลังปีใหม่ใกล้กับการเปิดสมัยประชุมสภา เพื่อนำข้อมูลการทุจริตในรัฐบาลมาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบก่อนที่จะมีการอภิปรายในสภา

"ประวิตร"ให้เสื้อแดงคิดเอง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ผู้ชุมนุมคงคิดเองว่าสมควรมากน้อยแค่ไหน เพราะอยู่ในช่วงการจัดงานพระราชพิธี ทุกคนรู้ว่าช่วงเวลานี้ควรทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ขณะนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีภายในชาติ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อความผาสุกของประเทศชาติ และเพื่อความสบายพระราชหฤทัยของพระองค์ท่าน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ระบุว่า มีทหารพรานค่ายปักธงชัยออกมารวมตัวเพื่อปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่มีทหารพราน แต่คงจะมีทหารพรานที่ปลดประจำการไปแล้ว ทางกองทัพบกดูแลอยู่ คิดว่าไม่มีปัญหา และกองทัพบกสอดส่องดูแลอยู่ ทุกคนรู้ว่าควรทำอย่างไร ตนได้พูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ทราบว่ากำลังดำเนินการอยู่เกี่ยวกับเรื่องของ พล.ต.ขัตติยะ

"เสธ.แดง"ยันทหารพรานของจริง

พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ที่นายสุเทพเชื่อว่าทหารพรานจะไม่ถูกจูงจมูกนั้น การพูดเช่นนี้เหมือนไปเปรียบเขาว่า เป็นวัว เป็นควาย จะสร้างความโกรธให้ทหารพรานฮึกเหิมกว่าเดิม ที่ตนออกพูดเพราะหวังดี แต่รัฐบาลกลับไม่เชื่อ สั่งให้กองทัพจับตามองตน ตั้งคณะกรรมการสอบสวน แสดงให้เห็นว่า กองทัพขึ้นตรงกับเอเอสทีวี เพราะเมื่อเขาบอกให้สั่งสอบ กองทัพสั่งสอบตนทันที 

"กลุ่มทหารพรานค่ายปักธงชัยที่รวมตัวกันคือ ทหารที่ปลดประจำการไปแล้ว เมื่อปี 2541-2542 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล และเข้ามายุบองค์การแก้ว ยุบองค์การฟอกหนัง องค์การแบตเตอรี่ที่เป็นองค์กรสำคัญในการทำสงคราม รวมถึงยกเลิกเงินเพิ่มค่าสู้รบของทหาร ที่ทหารพรานออกมารวมตัวกันเพราะไม่พอใจและข้องใจที่ทหารออกมาปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายน ทั้งที่ในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรมาชุมนุม ทหารกลับไม่ออกมา ซึ่งทหารพรานเหล่านี้สนิทกับกลุ่มเขมร 3 ฝ่าย หากกัมพูชาสนับสนุนอาวุธให้มายิงทหารหลัก และทหารหลักเกียร์ว่างไม่ออกมา ปล่อยให้รัฐบาลแก้ปัญหาเอง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะถูกตามล่าจากทหารพราน เพราะเมื่อไรที่ทหารหลักไม่ออกมา รัฐบาลชุดนี้หมดท่าทันที" พล.ต.ขัตติยะกล่าว

พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ขณะนี้ทหารพรานรวมตัวกันเป็นพันคน และในวันที่ 10 ธันวาคมกลุ่มทหารพรานหลายร้อยคนจะมาเป็นการ์ดให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุม และขอเตือนอีกครั้งว่า ทหารหลักอย่าออกมา เพราะจะเกิดการปะทะกัน หากไม่เชื่อจะเกิดเหตุรบกัน แต่หากทหารหลักไม่ออกมาก็ไม่มีอะไร ทั้งนี้ขอให้รอดูว่าทหารพรานเถื่อนเป็นอย่างไร และขอให้ดูว่าทหารพรานที่ตนพูดมีจริงหรือไม่

ผบ.ทบ.ลั่นทหารนอกแถวต้องถูกลงโทษ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า พล.อ.อนุพงษ์พูดถึงสภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงได้สั่งกำชับให้ผู้บังคับหน่วยให้ย้ำเตือนกำลังพลทุกระดับชั้นถึงบทบาทภาระหน้าที่ของกองทัพบก การดำเนินการใดๆ ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของชาติและของประชาชน เมื่อถามว่า ในที่ประชุมพูดถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ ที่ออกมาระบุว่าจะมีอดีตทหารพราน ค่ายปักธงชัย ร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารที่มีขึ้นในขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์เชื่อว่ากำลังพลในกองทัพบกเป็นคนดี รู้จักวินัยและประพฤติปฏิบัติตนเป็นทหารที่ดี อาจจะมีบางส่วนที่มีความสับสนในข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ออกมา ซึ่งข้อมูลบางส่วนก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง

"ภาระหน้าที่ของกองทัพบก คือ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินการเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง ใครที่ไปทำอะไรไม่ดีในส่วนของกองทัพบกก็ไม่เป็นที่ยอมรับและต้องถูกดำเนินการตามกฎระเบียบที่มีการวางไว้ ทั้งเรื่องของวินัยและตัวบทกฎหมาย" พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว 

"มท.1"ลงพท.เจอแดงป่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจแจกผ้าห่มอุปกรณ์กันหนาวของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.45 น. นายชวรัตน์และคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากค่ายพญาเม็งรายมหาราช ไปแจกผ้าห่มที่โรงเรียนอนุบาลนางแล อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คน ในนามกลุ่มแดงเมืองพาน 50 ที่ฝ่าด่านสกัดของตำรวจและอาสารักษาดินแดน ( อส.) เข้ามาอยู่ภายในโรงเรียน ใกล้บริเวณพิธี และชูป้ายตะโกนขับไล่นายชวรัตน์ และ กลุ่มคนเสื้อแดงตะโกนให้นักเรียนบางส่วนร่วมกันตะโกนขับไล่คณะของนายชวรัตน์ด้วย จนครูต้องประกาศให้นักเรียนกลับเข้าห้อง ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงตามมาสมทบอีกประมาณ 300 คน จนเจ้าหน้าที่ต้องให้กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมร้อยคนมาป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าใกล้บริเวณเฮลิคอปเตอร์ จึงทำให้คณะต้องรีบเดินทางกลับทันที

จากนั้นคณะเดินทางไปแจกผ้าห่มต่อที่ว่าการอำเภอสองแคว จ.น่าน โดยมีกลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางมาชุมนุมขับไล่นายชวรัตน์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดไว้ได้ก่อนที่จะถึงบริเวณงานประมาณ 5 กิโลเมตร และจุดที่โรงเรียนบ้านภูเงิน อ.เมือง จ.พะเยา ก็มีกลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางมาขับไล่คณะเช่นกัน โดยที่จุดนี้ตำรวจได้ตั้งด่านสกัด ทำให้กลุ่มเสื้อแดงพากันปิดถนน ไม่ให้รถสัญจรผ่านไปมาได้สะดวก ทำให้รถบรรทุกน้ำมันที่จะนำมาเติมให้เฮลิคอปเตอร์ที่จอดที่โรงเรียนบ้านภูเงินไม่สามารถเดินทางมาได้ จนเฮลิคอปเตอร์ต้องบินออกไปเติมน้ำมันที่ค่ายทหารขุนเจืองธรรมิกราช จากนั้นคณะจึงได้เดินทางมาแจกผ้าห่มที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โรงเรียนบ้านแม่งปิง ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และโรงเรียนบ้านห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจุดสุดท้าย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย จากนั้นจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ

"จตุพร"ซัดรบ.จัดฉากต่างด้าวใส่ร้าย

นายจตุพร พรมหพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ยืนยันนัดชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคม โดยระหว่างชุมนุมจะปราศรัยเรื่องรัฐธรรมนูญ และถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ แต่หากรัฐบาลยังปั่นกระแสใส่ร้าย ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมอย่างยืดเยื้อ ซึ่งนายจุตพรแถลงที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ว่า การชุมนุมวันที่ 10 ธันวาคม นอกจากจะปราศรัยเรื่องรัฐธรรมนูญ และถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังถือเป็นการเตือนรัฐบาลด้วยว่า หากในวันที่ 31 ธันวาคม มีการก่อความรุนแรงวางระเบิดและป้ายสีความผิดให้คนเสื้อแดง การชุมนุมครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมปี 2553 จะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม

"ผมได้รับรายงานจากตำรวจว่า กระบวนการใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดงว่าขนคนต่างด้าวเข้าร่วมชุมนุมยังมีอยู่ ผ่านทางกระทรวงแรงงานและฝ่ายความมั่นคง โดยบีบบังคับเจ้าของกิจการที่ประกอบธุรกิจประมงในสมุทรปราการ และสมุทรสงคราม ให้เกณฑ์แรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ โดยจะรวบรวมให้ครบ 5,000 คน ขณะนี้สามารถรวบรวมได้แล้ว 1,082 คน จากนั้นในวันที่ 10 ธันวาคม ในเวลา 13.00 น. ฝ่ายรัฐบาลจะแถลงข่าวจับกุมแรงงานต่างด้าวในเสื้อสีแดง เพื่อโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดง พร้อมสร้างสถานการณ์ว่ามีการทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวในบริเวณถนนราชดำเนินด้วย"

นายจตุพรกล่าว และว่า ดังนั้น พวกตนจะร่วมมือกับตำรวจตรวจค้นคนต่างด้าวที่ทางเข้าเวที 2 จุด คือ บริเวณสะพานผ่านฟ้า และสี่แยกคอกวัว เพื่อตรวจบัตรประชาชนของคนเสื้อแดงที่เข้ารับฟังการปราศรัยทุกคน

ลั่นหากโดนใส่ร้ายชุมนุมยืดเยื้อ

"หากรัฐบาลยังเล่นอย่างนี้ สร้างสถานการณ์ปั่นกระแสไม่เลิกการชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคมที่จะมีขึ้นระหว่างเวลา 12.00-24.00 น. จากนั้นจะแยกย้ายกันกลับนั้น จะกลายเป็นการชุมนุมไม่เลิกลาและจะยืดเยื้อยาวนานต่อไป เพราะถือว่ารัฐบาลไม่ประสงค์ที่จะหาความสงบสุข" นายจตุพรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์วันที่ 31 ธันวาคมจะรุนแรงอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เมื่อช่วงปีใหม่ในปี 2550 ที่เกิดเหตุวางระเบิดถึง 9 จุด ในกรุงเทพฯ ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยจะป้ายความผิดมาให้สามเกลอ เพื่อบล็อคพวกตนไม่ให้ชุมนุมครั้งใหญ่ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะออก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อคุมสถานการณ์ในวันที่ 10 ธันวาคม ก็ขอท้าให้ประกาศเลย เพราะรัฐบาลชุดนี้มีความผิดปกติอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงจะแสดงหลักฐานหรือไม่ว่ารัฐบาลจะก่อความรุนแรงในวันที่ 31 ธันวาคมจริง นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้เป็นการการพูดคุยกันเท่านั้น รัฐบาลยังไม่ได้ลงมือ แต่ที่ตนต้องออกมาพูดเพราะต้องการส่งสัญญาณเตือนไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าอย่าดำเนินการเช่นนั้น

ยันชุมนุมไม่กระทบพระราชพิธี

เมื่อถามว่า การจัดการชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคม จะส่งผลกระทบต่องานราชพิธี นายจตุพรกล่าวว่า ได้เช็คกำหนดการตารางการจัดงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพื้นที่ถนนราชดำเนินจะจัดงานระหว่างวันที่ 3-7 ธันวาคม ส่วนวันที่ 5-13 ธันวาคมนั้น จะใช้พื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ดังนั้นการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจะไม่ส่งผลกระทบการงานเฉลิมฉลอง รวมถึงการจราจรแต่อย่างใด เพราะเป็นวันหยุด ทั้งนี้เท่าที่ประเมินจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมคาดว่าหางแถวจะอยู่ระหว่างสี่แยกคอกวัว กับสี่แยก จปร.เท่านั้น นอกจากนี้ในวันรัฐธรรมนูญของทุกปีพื้นที่บริเวณอนุสารีย์ประชาธิปไตยจะจัดกิจกรรมวันรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

"สุเทพ"ฝันเสื้อแดงฉุกคิดล้มชุมนุม

ด้าน นายสุเทพกล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 10 ธันวาคม ว่า คิดว่าเมื่อกลุ่มผู้ที่จะชุมนุมเห็นบรรยากาศในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา ในช่วง 1-2 วันนี้อาจจะทบทวนได้ ยังมีเวลาฉุกคิดและทบทวน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ได้เรียนต่อนายกรัฐมนตรีว่า แม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคม จะไม่นำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นฯมาใช้แก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนตระหนกตกใจและผิดหวัง แต่ต้องการให้เป็นบรรยากาศแห่งความสุขจริงๆ อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดความอ่าน หรือพลังทางการเมือง เรายังมีเวลาหลังปีใหม่จะทำกันอย่างไร ค่อยมาว่ากันก็ได้