จิ๋วปัดจัดฉากช่วยศิวรักษ์ ชี้ทุกอย่างสิมารักษ์ตัดสินใจเอง ทนไม่ไหวเอาทุกข์ปชช.มาเล่นการเมือง

"จิ๋ว"ปัดจัดฉากช่วย"ศิวรักษ์" ชี้ทุกอย่าง"สิมารักษ์"ตัดสินใจเอง ทนไม่ไหวเอาทุกข์ปชช.มาเล่นการเมือง

"บิ๊กจิ๋ว"ให้รอดูหลังผลการตัดสินคดีเป็นสายลับ"ศิวรักษ์" ของศาลกัมพูชา 9-10 ธ.ค. นี้จะได้รับการปล่อยตัว ปัดจัดฉากระบุทุกอย่าง"สิมารักษ์"จัดการเอง เอาความทุกข์ยากของประชาชน มาทำงานการเมืองคงไม่ดี

บิ๊กจิ๋วแย้ม9-10ธ.ค.ศิวรักษ์เป็นอิสระ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย  กล่าวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ที่วัดชนะสงคราม ถึงกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว ตกลงใจไม่ยื่นขอประกันตัวนายศิวรักษ์ และเปลี่ยนทนายความจากเดิมที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้มาเป็นทนายที่พรรคเพื่อไทยจัดให้ว่า  ไม่ใช่เกมการเมืองของพรรคเพื่อไทย ตามที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้ามีการประกันตัวแล้ว จะต้องต่อสู้คดีอีกยาว มารดานายศิวรักษ์จึงคิดว่าเมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไร คงจะได้รับความช่วยเหลือจากกัมพูชา รวมถึงการขอพระราชทานอภัยโทษ

"แม่ของนายศิวรักษ์คงเห็นว่านายศิวรักษ์ไม่เคยอยู่ในห้องขังเล็กๆ อย่างนี้นานๆ จึงเกิดความอึดอัด ไม่สบายใจ จึงตัดสินใจขอรับพระมหากรุณาธิคุณ และขอให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลไทยคงเห็นด้วย เพราะสิ่งสำคัญคืออยากให้ได้คนไทยกลับบ้านได้เร็วที่สุด เชื่อว่าหลังวันที่ 8 ธันวาคม ที่ศาลจะพิพากษาคดี จะมีข่าวดี วันที่ 9-10 ธันวาคม น่าจะได้รับการปล่อยตัว" พล.อ.ชวลิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่าพรรคเพื่อไทยจัดฉาก เพราะรู้ข้อมูลหลายอย่างเกี่ยวกับคดี พล.อ.ชวลิตยืนยันว่า ไม่มีใครทราบ มารดานายศิวรักษ์เป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง

"ไม่ไหวนะ หากเอาความเป็นอยู่ ความทุกข์ยากของประชาชน มาทำงานการเมืองคงไม่ดี และเท่าที่ทราบก็ไม่มีใครทำเช่นนั้น ทุกคนช่วยกันหมด ไม่ว่าจะรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม ทำงานเต็มที่ เราช่วยทำงานอยู่ข้างหลัง ช่วยอะไรได้ก็ช่วย" พล.อ.ชวลิตกล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือนางสิมารักษ์ว่า จากการพูดคุยกันทราบว่าหลังขอเปลี่ยนตัวทนายความได้ก็สบายใจขึ้น ส่วนตัวคิดว่าเมื่อรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีความขัดแย้งกับผู้นำรัฐบาลกัมพูชาแทบจะรายวัน ย่อมเป็นธรรมดาที่นางสิมารักษ์จะกังวลเรื่องการประสานงาน ดังนั้น นางสิมารักษ์ รวมถึงเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานของนายศิวรักษ์จึงอาจคิดว่าการขอเปลี่ยนทนายความจะได้ประโยชน์มากกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความส่วนตัว ขั้นต้นนางสิมารักษ์ต้องเจรจากับกระทรวงการต่างประเทศว่าจะดูแลให้เช่นเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ดูแล ทราบว่าบริษัทต้นสังกัดนายศิวรักษ์ก็พร้อมช่วยเหลือ ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เราทำหน้าเพียงประสานงาน อำนวยความสะดวกเรื่องเดินทางและการเข้าพบบุตรชายเท่านั้น