แม่ "ศิวรักษ์" ปรึกษาทนายคนใหม่ ตัดสินใจถอนเรื่องขอประกันตัวลูก หวังให้คดีจบเด็ดขาดในวันที่ 8 ธ.ค. หากผิดจริงก็จะไม่อุทธรณ์ แต่จะขอพระราชทานอภัยโทษแทน และให้ "แม้ว-จิ๋ว"ช่วย..
เมื่อช่วงสายวันที่ 4 ธ.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว ตัดสินใจเปลี่ยนตัวทนายความที่ดูแลคดีลูกชาย จากคนเดิมที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้ เป็นคนใหม่ที่เพื่อนของลูกชายแนะนำ ว่า ได้คุยกับนางสิมารักษ์ ทราบว่าทนายความคนใหม่เป็นชาวกัมพูชา ชื่อ นายเขียว สัมโบ เป็นทนายความที่มีความเชี่ยวชาญคดีลักษณะนี้ และมีการประสานผ่านทางหัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงานนายศิวรักษ์ นำเอกสารไปให้เจ้าตัวเซ็นแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อนางสิมารักษ์ ปรึกษากับนายเขียว แล้วก็ได้ตัดสินใจยื่นคำร้องขอยกเลิกการประกันตัวนายศิวรักษ์ ที่ทนายคนเดิมทำไว้ เพื่อให้คดีเดินหน้าไปด้วยความรวดเร็ว โดยนางสิมารักษ์จะเดินทางไปกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค. พร้อมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อฟังผลการตัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค. หากมีการตัดสินออกมาว่านายศิวรักษ์ไม่มีความผิดก็จะพาลูกชายกลับบ้านและให้ บวชตามที่ตั้งใจไว้ แต่หากปรากฏว่ามีความผิดก็จะดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนางสิมารักษ์ จะขอให้ทุกฝ่ายช่วยเหลือ ทั้งรัฐบาล หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย
ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนางสิมารักษ์ และบริษัทแคทส์ประเทศกัมพูชา ได้ปรึกษากับทนายคนใหม่ก็ได้ตัดสินใจขอถอนเรื่องการยื่นประกันตัวที่ทนายคนเดิมทำไว้ ตนและพรรคเพื่อไทยไม่ได้แนะนำหรือเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจดังกล่าว ส่วนตัวทราบว่าเหตุผลสำคัญที่นางสิมารักษ์ ตัดสินใจขอถอนเรื่องการยื่นประกัน ตัว เพราะเห็นว่าใกล้จะถึงวันตัดสินคดีแล้ว อยากให้มีการตัดสินเป็นเด็ดขาดในวันที่ 8 ธ.ค. เกรงว่าหากทำการประกันตัว อาจจะมีการไต่สวนของศาลเพิ่มเติม
"ในเมื่อรอมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คิดว่ารออีก 3-4 วัน แล้วให้ทุกอย่างจบลงในคราวเดียวดีกว่า นางสิมารักษ์อยากให้ลูกชายออกมาอย่างถาวร ไม่ใช่แค่ชั่วคราว"
นายนพดล กล่าวต่อว่า สำหรับการตัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค.นั้น หากผิดถูกอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต พร้อมให้ความช่วยเหลือจนตลอดรอดฝั่ง หากผลการตัดสินออกมาว่านายศิวรักษ์มีความผิดจริง เชื่อว่านางสิมารักษ์ และทนายความจะไม่ยื่นเรื่องขออุทธรณ์ แต่จะกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะนางสิมารักษ์ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกชายได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด หากทำการอุทธรณ์จะต้องอยู่ในการควบคุมตัวต่อไป และในขั้นตอนของการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น หากต้องทำจริงๆ เบื้องต้นทนายความจะเป็นคนดำเนินการก่อน จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ก็จะประสานทางการกัมพูชาขอพระราชทานอภัยโทษให้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
