"ชวลิต"เผย"นครปัตตานี"เรื่องธรรมดา เผยกลุ่มก่อความไม่สงบยื่น3ข้อเสนอขออาศัยพระบรมโพธิสมภาร-ต้องการสังคมภูมิบุตร-อยู่ใต้รธน.ไทย แย้มมีสิ่งยิ่งใหญ่แต่พูดไม่ได้ อดีตหน.ศรปภ.ใต้เสนอโหวตทั่วประเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา จัดราชดำเนินเสวนา ครั้งที่ 17/2552 หัวข้อ "นครปัตตานี...ทางออกในวาระ 6 ปี ไฟใต้?"
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) ปาฐกถาพิเศษ "แนวคิดนครปัตตานี" และ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ภาคใต้ นายอับดุลเลาะ อับรู อาจารย์ประจำวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พล.ท.สมชาย วิรุฬหผล คณะทำงานเสริมสร้างสันติสุขภาคใต้ ร่วมเสวนา
พล.อ.ชวลิตกล่าวตอนหนึ่งว่า แนวคิดการตั้งนครปัตตานี ครั้งหนึ่งเคยมีฝ่ายที่สร้างความไม่สงบเขียนหนังสือมาหาตน 3 ข้อ
1.ขออยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย 2.ขอนำสังคมภูมิบุตร สังคมที่เคยอยู่มา 1,000 ปี ที่ประกอบด้วยไทยพุทธ มุสลิม คนไทยเชื้อสายจีน เขาต้องการสังคมอย่างนี้ไม่ใช่แค่เอามุสลิม 3.ขอดูแลตัวเองภายใต้กรอบกฎหมายไทยและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น ตนไม่เห็นข้อไหนคือสิ่งไม่ดี แสดงว่าที่เราเสนอนครปัตตานีจึงเป็นเรื่องธรรมดา และต้องก้าวข้ามความรู้สึกต่างๆ ว่าที่นี่คือศูนย์กลางของปัญหา
"หัวใจปัญหาใน 3 จังหวัดภาคใต้อยู่ที่การแบ่งแยกดินแดน หากยังมองไม่ก้าวข้ามจิตใจก็ไม่มีทางสำเร็จ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกฝ่ายมีเจตนาดี นอกเหนือจากเสนอนครปัตตานี จะต้องทำให้นครปัตตานีเป็นนครที่เคยมีความยิ่งใหญ่มา 1,000 ปีให้ได้ ซึ่งเราต้องสถาปนาให้เกิดในยุคสมัยนี้" ประธานพรรคเพื่อไทยกล่าว
"ผมมีสิ่งยิ่งใหญ่กว่านี้อีก พูดไม่ได้ พูดแล้วจะเสียอีก แต่พูดจริงๆ จากใจคงไม่เสีย เราต้องสถาปนาพระเกียรติยศให้กลับคืนมา ใน 3 จังหวัดภาคใต้ให้ได้ และเราต้องสร้างให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ นี่คือสังคมของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นสังคมที่ภูมิใจที่สุด เพราะวันนี้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีสิ่งที่ไปพูดจาทำให้เกิดความเสียหาย ต่อหลายสิ่งที่พวกเราเคารพและเทิดทูน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่แล้ว" พล.อ.ชวลิตกล่าว
ชวลิตเผยป่วนใต้ติดต่อยื่น3ข้อเสนอนครปัตตานี
จากนั้น พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติภาคใต้ กล่าวเสวนาตอนหนึ่งว่า
"การเสนอแนวคิดตั้งนครปัตตานีเป็นปัญหาทางการเมือง ถ้าเสนอไทยพุทธก็จับอาวุธอีกปัญหาก็ไม่จบ ถ้าโหวตเสียงประชาชนทั่วประเทศจะยอมหรือไม่ ในสมัยเกิดเหตุปัญหาภาคใต้ รัฐบาลสมัยนั้นก็ปลุกระดมอีสานว่า คนมุสลิมจะแยก 3 จังหวัดภาคใต้ไปแล้ว ดังนั้น ต้องสร้างความสงบในพื้นที่ก่อนแล้วทุกอย่างจะพัฒนาขึ้นเอง" พล.ท.นันทเดชกล่าว
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่ชุมชนเพชรคูหา เขตเทศบาลนครยะลา ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการลงทะเบียนยานพาหนะ
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบข้อมูลบุคคลและยานพาหนะ ในการผ่านด่านตรวจ และเสริมมาตรการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อแก้ปัญหานำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย โดยกำหนดลงทะเบียนและตรวจสอบสถานะบุคคลและยานพาหนะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา (จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย) ระหว่างวันที่ 1 ธันนวาคม 2552-25 มกราคม 2553 มีประชาชนชุมชนเพชรคูหา ซึ่งเป็นชุมชนนำร่องมาลงทะเบียนจำนวนมาก โดยเมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยจะได้รับสติ๊กเกอร์ติดที่หน้ารถ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้เมื่อผ่านจุดตรวจต่างๆ