เผยป๋าโทรคุยศุภชัยนายกฯ หวังต่างชาติยอมรับเจ้าตัวรับปากแล้ว

"ศุภชัย พานิชภักดิ์" ตอบรับนั่งเก้าอี้ว่าที่นายกฯ คนที่ 24 แล้ว ด้าน "บิ๊กบัง" เผย "ป๋าเปรม" เป็นห่วงเรื่องสรรหานายกฯ ขอให้เลือกคนดี

ศุภชัย พานิชภักดิ์

ข่าวในคปค."อักขราทร-ชาญชัย" ยังแรง ขณะที่ "สุรยุทธ์" แรงขึ้นอีกครั้งหลังเข้าพบป๋า

หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้เข้ายึดอำนาจบริหารจากรัฐบาลรักษาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อคืนวันที่ 19 กันยายน พร้อมประกาศจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายใน 2 สัปดาห์

ล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการองค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) จะได้รับการคัดสรรจาก คปค.ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของประเทศไทย


ดร.ซุป รับเป็นนายกฯคนที่24



แหล่งข่าวแกนนำใน คปค.เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 กันยายน ว่า ล่าสุดนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด ได้ตอบรับที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่24 ของประเทศไทยแล้ว

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการทาบทาม คือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งได้โทรศัพท์ไปหารือกับนายศุภชัยตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 23 กันยายน และล่าสุดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้โทรศัพท์ไปทาบทามด้วยตนเองด้วย

"เหตุผลที่ คปค.เลือกคุณศุภชัย เพื่อให้แก้ภาพลักษณ์ต่อสายตาชาวต่างประเทศ ที่คัดค้านการปฏิวัติ อีกทั้งคุณศุภชัยก็เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า จะสามารถกอบกู้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในวิกฤติที่เกิดขึ้นได้" แหล่งข่าวจาก คปค. ระบุ


แหล่งข่าวจาก คปค.ให้เหตุผลด้วยว่า ที่เลือกนายกรัฐมนตรีจากพลเรือน และเป็นมือเศรษฐกิจมากกว่านักกฎหมาย เพราะ

กระบวนการทางกฎหมายนั้น ประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษหลายราย ต่างกับความเชื่อมั่นในตัวบุคคลด้านเศรษฐกิจ มีผู้ที่ไว้วางใจได้น้อย


ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดนายศุภชัย ใช้คำพูดที่ว่า

"เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ดร.ศุภชัย จะตอบรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ตามที่ คปค.ได้ทาบทามไว้ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วก่อนการรัฐประหาร" ตามกำหนดการเดิมนายศุภชัยจะบินกลับมาถึงเมืองไทยในค่ำวันที่ 25 กันยายนนี้ และจะมีการเจรจาอย่างเป็นทางการร่วมกับแกนนำ คปค.อีกครั้งหนึ่ง

แหล่งข่าวให้เหตุผลว่า การยินยอมรับตำแหน่งในครั้งนี้ นายศุภชัยไม่มีอะไรต้องเสีย ถึงแม้ว่ายังเหลือวาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการอังค์ถัดอีก 3 ปี

การมารับตำแหน่งนายกฯ เพียง 1 ปีก็น่าจะเป็นเกียรติประวัติสูงสุด
เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้เป็น ผอ.องค์การการค้าโลกมาแล้วด้วย ขณะที่เมื่อมองอีกด้านหนึ่ง โอกาสที่นายศุภชัยจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยระบบปกติก็เป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ เพราะต้องผ่านระบบพรรคการเมือง

"ถ้าจะเป็นนายกฯ ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก็หมายความว่าต้องได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคก่อน ซึ่งนาทีนี้คงจะฝ่าด่านคุณอภิสิทธิ์ไปได้ยาก เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีระบบของพรรคอยู่แล้ว ทำให้โอกาสจะได้เป็นหัวหน้าพรรคเป็นศูนย์ ขณะที่ถ้าจะเลือกพรรคชาติไทยก็คิดว่าคุณศุภชัยคงไม่เอา เพราะถ้าเอาก็คงตัดสินใจไปนานแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีการทาบทามมาหลายครั้งแล้ว" แหล่งข่าว ระบุ


เผยทาบ"ดร.ซุป"ตั้งแต่ 21 ก.ย.

ดร.ศุภชัย อดีตผู้อำนวยการ การค้าโลก WTO


ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ นายศุภชัยได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า คปค.ได้ติดต่อทาบทามนายศุภชัยมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกาลของ คปค.จริง

"ท่านศุภชัยเป็นหนึ่งในสี่ถึงห้าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการติดต่อ ผมเชื่อว่า คปค.จะประกาศธรรมนูญการปกครองแผ่นดินมาก่อนที่จะประกาศแต่งตั้งใครเป็นนายกฯ" นายตีรณ เปิดเผย

อดีตที่ปรึกษาคนสำคัญของนายศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ขึ้นอยู่กับ คปค.ว่าจะเลือกใคร ตอนนี้นายศุภชัยอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว หลังกลับจากประชุมที่ประเทศออสเตรเลียสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง คปค.ได้ติดต่อตนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน โดยระบุว่าต้องการให้ติดต่อนายศุภชัย ตนจึงประสานงานให้

ทั้งนี้ นายศุภชัยเป็นหนึ่งในหลายบุคคลที่มีกระแสข่าวว่าได้รับการทาบทามจาก คปค. และนับเป็นรายแรกที่คนใกล้ชิดออกมายืนยันว่า คปค.ทาบทามให้เข้ารับตำแหน่งจริง หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวหลายกระแสระบุคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาทิ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทั้งหมดที่ถูกระบุชื่อต่างออกมายืนยันว่า ไม่เคยได้รับการติดต่อทาบทาม

นายศุภชัยนับเป็นมือเศรษฐกิจที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศคนหนึ่ง คาดหมายกันว่า การที่ คปค.ต้องการให้นายศุภชัยมาดำรงตำแหน่งนายกฯ เนื่องจากต้องการให้รัฐบาลรักษาการที่จะมีขึ้น ได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ รวมถึงไปจะเป็นการอธิบายเหตุผลในการยึดอำนาจของฝ่ายทหารที่ต้องการเข้ามาเร่งฟื้นฟูปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

อนึ่ง มีรายงานข่าวว่า ในการเจรจากับคปค.ขั้นต้น นายศุภชัยได้เสนอเงื่อนไขการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลับมา ทำให้ คปค.ต้องกลับมาหารือกันอีกครั้ง และได้ตอบตกลงยอมรับในที่สุด


"สนธิ"พบ"ป๋าเปรม"ถกชื่อนายกฯ



ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานหัวหน้า คปค. ได้เดินทางออกจาก บก.คปค. กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ไปเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เป็นเวลา 45 นาที การเข้าพบครั้งนี้ พล.อ.สนธิ เดินทางมาด้วยตัวเอง โดยจัดขบวนคุ้มกันจากหน่วยทหารกรมรบพิเศษที่ 1 และกองพันสารวัตรทหารบก (สห.ทบ.) พร้อมรถมอเตอร์ไซค์ฉลามบก รถวิทยุ และรถขบวนติดตาม โดยมีรถเบนซ์รับรองตามไปด้วย 2 คัน


แหล่งข่าว คปค. เผยว่า การเข้าพบ พล.อ.เปรม ครั้งนี้

พล.อ.สนธิ ได้นำบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2549 และรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมทั้งรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม เข้าไปหารือ

ก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ ได้อยู่ภายใน บก.คปค.หารือร่วมกับ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส.และประธานที่ปรึกษา คปค. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และรองหัวหน้า คปค. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.และรองหัวหน้า คปค. และ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาฯ สมช.ในฐานะเลขาฯ คปค. ซึ่งการประชุมในวันนี้ยังได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งปลัดกระทรวงเกษตรฯ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงคมนาคม เข้ามาหารือด้วย

จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.อ.เรืองโรจน์ พร้อมด้วย พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ได้เดินทางกลับ เหลือเพียง พล.อ.อ.ชลิต และ พล.อ.วินัย กระทั่งเวลา 15.00 น. พล.อ.สนธิ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พร้อมหอบรายชื่อโผโยกย้ายนายทหารไปหารือในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะนำกลับมาจัดพิมพ์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในวันเดียวกันนี้ หรือหากไม่เสร็จก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 26 กันยายน


มีรายงานข่าวด้วยว่า รายชื่อนายกรัฐมนตรี ที่พล.อ.สนธิ ได้นำเข้าหารือกับ พล.อ.เปรมนั้น

ยังมีชื่อ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา ซึ่งคนใน คปค.ส่วนหนึ่งสนับสนุน รวมทั้งชื่อของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่แรงขึ้นมาหลัง พล.อ.สนธิเข้าพบ พล.อ.เปรมด้วย แต่ในรายงานข่าวไม่ได้ระบุถึงชื่อนายศุภชัย พานิชภักดิ์ แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ อดีต เสธ.ทบ.และ เสธ.ทหาร เพื่อนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาเป็นระลอกว่า จะได้รับการพิจารณาขึ้นเป็น รมว.กลาโหม อีกคน หาก พล.อ.สุรยุทธ์ ได้รับการพิจารณาเป็นนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิม พล.อ.สนธิ มีกำหนดไปเป็นประธานงานเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการของนายทหารชั้นนายพล ที่โรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ล่าสุดได้มอบหมายให้ พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย ประธานที่ปรึกษา ทบ. เป็นประธานแทน


"สนธิ"เผยป๋าย้ำนายกฯต้องคนดี



พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หลังเข้าพบ พล.อ.เปรมว่า ในฐานะหัวหน้าคปค.ต้องนำเรื่องต่างๆ ไปเล่าให้ พล.อ.เปรมได้รับทราบว่า คปค.ทำอะไรไปบ้าง สิ่งที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ คืบหน้าอย่างไร จะทันกำหนดเวลา 2 สัปดาห์หรือไม่ พล.อ.เปรมได้สอบถามเรื่องต่างๆ เรื่องที่เป็นห่วงเป็นพิเศษคือว่า คปค.จะทำงานทันกำหนดเวลาหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ตอบไปว่า ทันแน่นอนเพราะทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ทุกคนทุ่มเทเต็มที่

ป๋าท่านเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่พวกเราทุกคนให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะทหารในกองทัพ ซึ่งเป็นธรรมดาผู้ใหญ่ของบ้านเมืองก็ต้องแสดงความห่วงใยในทุกเรื่อง ซึ่งท่านก็ได้เมตตาแนะนำถึงแนวทางการทำงานของคณะปฏิรูปฯ ด้วยว่า ขอให้ดูดีๆ คิดอะไรให้รอบคอบและต้องเลือกคนดีๆ มาทำงาน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีต้องเลือกคนดีๆ มาทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายทหารและข้าราชการต้องให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งผมก็รับปากท่านว่า ทุกเรื่องจะดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบเรียบร้อยและพิจารณาอย่างรอบคอบพล.อ.สนธิ กล่าว


บทบาทในสังคมโลก ของดร. ศุภชัย


พ.ศ. 2542 เดือนกันยายน ดร. ศุภชัยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ ; WTO) โดยแบ่งกันดำรงตำแหน่งคนละ 3 ปี กับนายไมค์ มัวร์ เนื่องจากไม่สามารถหาข้อยุติด้วยการลงมติเป็นเอกฉันท์ได้ โดยขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2545

พ.ศ. 2548 - มีนาคม นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้เสนอชื่อให้ ดร. ศุภชัย ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) หลังจากหมดวาระในองค์การการค้าโลก และได้รับการรับรองจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

ประวัติการศึกษา
ระดับประถม-มัธยมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 7 และ 8 จาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ระดับปริญญาตรีและโท สำเร็จการศึกษาด้าน เศรษฐมิติ (Econometrics) Development Planning จาก Netherlands School of Economics,Rotterdam โดยได้ทุนของธนาคารแห่งประเทศไทย
ระดับปริญญาเอก ด้านการวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยอีราสมุส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทุนของธนาคารแห่งประเทศไทย

ส่วนกระแสเรียกร้องให้ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีควรเป็นนักกฎหมาย เพื่อเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายมีพาศน์ กล่าวว่า


เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ใช้ให้นายกรัฐมนตรีทำเอง นายกฯ มีปัญหาอื่นๆ ที่สำคัญกว่าที่ต้องเข้าไปแก้ไข

อดีตผู้พิพากษา กล่าวถึงกรณีที่มองว่า หากให้ พล.อ.สุรยุทธ์ เข้ามาอาจถูกมองว่าเป็นเหมือนยุค รสช.ที่ให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ต่างกัน เพราะ พล.อ.สุจินดา อยู่ในคณะ รสช.ด้วย แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นองคมนตรี ไม่ได้เป็นทหารประจำการ และผ่านการศึกษาในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จึงมีมุมมองที่กว้าง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์