นายนพดล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังพำนักอยู่ที่ดูไบแน่นอน เพราะวิกฤตของบริษัทกลุ่มดูไบเวิลด์ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากท่านใช้ดูไบเป็นที่พำนัก ไม่ได้ลงทุนขนาดใหญ่ และที่รัฐบาลพยายามบอกว่าใช้ดูไบเป็นฐานทำร้ายประเทศไทยนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่ความเคลื่อนไหวต่างๆอาจจะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลบ้าง ก็เป็นอีกเรื่อง ทั้งนี้ในช่วงปีใหม่ยังไม่มีความแน่ชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาอยู่ที่เอเชียนี้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่คนที่จะมาอวยพรปีใหม่ อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ และขอให้คนที่วางแผนจะไปดูไบเพื่ออวยพรปีใหม่อดีตนายกฯขอให้ใจเย็นๆเพราะยังไม่แน่ว่าพ.ต.ทักษิณจะมาอยู่ที่ใด
การที่กัมพูชาระบุว่าจะไม่ขอกู้เงิน 1.4 พันล้านบาท เป็นสัญญาณที่ไม่ดีของความสัมพันธ์ ซึ่งน่าเป็นห่วงใน 3 เรื่อง คือ 1.การปิดน่านน้ำอันส่งผลเดือดร้อนให้ชาวประมง เพราะไปขู่เรื่องยกเลิกเอ็มโอยูเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 2.การปิดพรมแดน อันอาจจะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนที่มีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท และ3. ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนประสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอาจจะส่งผลไปสู่เวทีอาเซียน องค์การสหประชาชาติ และอาจนำขึ้นสู่ศาลโลกอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการดำเนินการทางการทูตของรัฐบาลนี้อย่างชัดเจน เพราะไปตั้งแง่การเจรจาว่าหากจะเจรจาต้องให้กัมพูชายกเลิกการตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาเสียก่อน และรัฐบาลนี้พยายามเอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นตัวประกันเพื่อหวังผลทางการเมือง และขอย้ำว่ารัฐบาลอย่าโทษว่าปัญหาทั้งหมดเป็นการให้คำปรึกษาของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะรัฐบาลกัมพูชาดำเนินการเองทั้งหมด
นพดลยันวิกฤตดูไบไม่กระทบแม้ว
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า