ย้ายเสรีพิศุทธ์ หลุดจากจเรฯ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ก.ย. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เรียกประชุม ก.ตร.โดยตำแหน่ง และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด ประกอบด้วย พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. เป็น ก.ตร. โดยตำแหน่ง พล.ต.ท.ชนุเดช พุธานานนท์ ผบช.ก.ตร. เป็น เลขานุการ ก.ตร. พล.ต.ท.

ชัยยันต์ มะกล่ำทอง พล.ต.ท.ภิรมย์ บุญรอดพานิช พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุปผาสุวรรณ พล.ต.ท.สมศักดิ์ แขวงโสภา พล.ต.ท.นุกูล เจียมอนุกูลกิจ และ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.ลงไปถึง ผบช.ทั่วประเทศ

สำหรับรายชื่อนายตำรวจที่คาดว่าผ่านการพิจารณาในครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัชผช.ผบ.ตร. และโฆษก ตร. เป็น รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.

ระดับ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัมรินทร์ เนียมสกุล ผบช.สนว.ตร. เป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.พิจาร จิตติรัตน์ ผบช.สง.กมส. เป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผบช.ปส. เป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 เป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 เป็น ผช.ผบ.ตร.และควบเก้าอี้ ผบช.ภ.9 ดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบช.ภ.5 เป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2

โผเที่ยวที่แล้วได้รับการวางตัวให้ เป็น ผบช.น. แต่ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. ที่คำสั่งเดิมถูกโยกไปเป็น ผบช.ก. ได้แรงหนุนจากเพื่อนร่วมรุ่น นรต.22 อย่าง ผบ.ตร. รวมทั้งเตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. หัวหน้า คปค. ให้ดูแลพื้นที่ กทม. เป็น ผบช.น.ตามเดิม พล.ต.ท. จงรักจึงต้องขยับขึ้น ผช.ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ที่พลาดจากตำแหน่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. โยกกลับมานั่งเก้าอี้ ผช.ผบ.ตร.ด้วย

ในระดับ ผบช. มีการโยกย้ายหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะ นรต.26 เพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ พล.ต.ท.ถาวร จันทร์ยิ้ม ผบช.ส. ย้ายไปเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต. ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง รอง ผบช.ตชด. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ ผบ.ตร.ขึ้นมาเสียบตำแหน่ง ผบช.ส.แทน ขณะที่ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 ถูกเด้งไปเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.เช่นเดียวกับ

พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตตานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เพื่อนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โผเดิมให้ไปเป็น ผบช.ภ.5 ต้องอกหักอยู่ในตำแหน่งเดิม มีเพียง พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.สตม. คนเดียวยังเหนียวแน่น ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลรับผิดชอบงาน สตม.ต่อไป

ส่วนตำแหน่งอื่นในระดับ ผบช. พล.ต.ท.ชาตรี สุนทรศร ผบช.สทส. เป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก.มือปราบคนดัง นรต.30 เป็น ผบช.ภ.2 ตามโผเก่า พล.ต.ต.อดิศร นนทรีย์ รอง ผบช.ภ.4 นรต.รุ่น 23 ขึ้น ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.กิตติธัช เรือนทิพย์ จตร.(สบ.8) นรต.รุ่น 22 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วสันต์ วัสสานนท์ รอง ผบช.ภ.6 เป็น

ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบช.ก. เป็น ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี รอง ผบช.ภ.9 เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีคาร์บอมบ์ โผที่แล้วถูกย้ายไปเป็น ผบช.ภ.1 ยังอยู่เป็น ผบช.ก.เหมือนเดิม พล.ต.ต. สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบช.ปส. ขึ้นเป็น ผบช.ปส. แทน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่ขยับขึ้นเป็น ผช.ผบ.ตร.

พล.ต.ต.นิพนธ์ ศิริวงศ์ รอง ผบช.ตชด. นรต.รุ่น 25 เป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.วรพจน์ เลิศลักษณา รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.เป็น พตร. (สบ.8) พล.ต.ท.เอก อังศนานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.เป็น ผบช.สนว. พล.ต.ต.บรรจง ตันศยานนท์ รอง ผบช.ก.ตร.เป็น ผบช.ก.ตร. พล.ต.ต.สุพจน์ ณ บางช้าง รอง ผบช.สง.กมส.ขึ้นเป็น ผบช.สง.กมส. และ พล.ต.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง จตร. (สบ.7) เป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.

หลังการประชุม ก.ตร.สิ้นสุดลง มีรายงานว่าในที่ประชุมได้มีมติให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. และให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ

ขณะที่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า การประชุม ก.ตร.เสร็จสิ้นเรียบร้อย แต่จำตัวเลขทั้งหมดไม่ได้ เบื้องต้นทราบว่ามีเพียง 2-3 ตำแหน่งที่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอให้ คปค.รับทราบอีกครั้ง

เมื่อถามว่า เพื่อนร่วมรุ่นอดีตนายกฯมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์กล่าวว่า เท่าที่ทราบก็คงมี แต่ขออนุญาตไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะต้องเสนอให้หัวหน้า คปค. จากนั้นจะเสนอทูลเกล้าฯตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นกรณีที่เร่งด่วน

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังมีกระแสข่าวถูกย้ายเป็นที่ปรึกษา (สบ.10) ว่า ถ้าถูกปรับตำแหน่งก็ขอขอบคุณ งานจะได้ลดน้อยลง จะได้ฟ้องใครบางคนได้เต็มที่มากหน่อย จะได้ขึ้นศาล ลงศาลฟ้องได้ง่าย ไม่เช่นนั้นมีทั้งงานประจำและฟ้องพวกที่ทำผิดกฎหมาย เมื่อถามถึงกรณี ก.ตร.ล้างบางเพื่อนร่วมรุ่นอดีตนายกฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แสดงความคิดเห็นว่า จะต้องเข้าใจว่าก่อนที่จะประชุมครั้งนี้มีการประชุมไปแล้ว

ซึ่งผ่านกระบวนการถูกต้องจนกระทั่งเสนอโปรดเกล้าฯ และทราบว่าทรงโปรดเกล้าฯมาแล้ว แต่ยังไม่มีคนรับสนอง ซึ่งเราไม่ต้องดูตรงนั้น มาดูกระบวนการแต่งตั้งครั้งนั้นเริ่มจากตรงไหน ท่าน ผบ.ตร. เป็นผู้จัดทำบัญชีลงนาม เสนอ บอร์ดคัดเลือก ซึ่งบอร์ดก็ไม่เห็นด้วยเพียง 2 คน คือ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. จากนั้นก็เสนอ ก.ตร. ปรากฏว่า พล.ต.ท.อชิรวิทย์ก็ได้ไป จากนั้น ผบ.ตร.ก็ลงนามไปหานายกฯให้กราบบังคมทูลฯโปรดเกล้าฯ

และวันนี้มาบอกบัญชีไม่ถูกต้อง เป็นไปได้ หรือ ในเมื่อลงนามคนเดียว ใครที่มีผลตรงนี้แล้วมาเปลี่ยนบัญชีฟ้องได้หมดเลย เพราะที่ผ่านมาถูกต้องหมดแล้ว จะมาบอกการเมืองแทรกแซงคุณเซ็นของคุณ คุณเป็นตำรวจคุณรู้กฎหมายหรือเปล่า ผิดกฎหมายก็ทำกัน เชื่อว่าจะมีการฟ้องกันเต็มที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

อีกด้านหนึ่งนายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการเข้าพบ คปค.ที่กองบัญชาการทหารบก ว่า ยังไม่ได้รายงานเรื่องบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 11 และ 10 ของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากยังไม่มีการเรียกดู แต่ได้เตรียมรายชื่อไว้พร้อมหมดแล้ว พร้อมที่จะนำเสนอในต้นสัปดาห์หน้า สำหรับคุณสมบัติของปลัดกระทรวงมหาดไทย

ต้องมีความรู้ ความสามารถ มีอาวุโส ทุ่มเทให้กับการทำงาน ส่วนข่าวนายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อาจเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย นั้น นายฐิระวัตรเองก็มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่อธิบดีคนอื่นๆในขณะนี้สามารถเป็นได้หมดทุกคน หากดูจากคุณสมบัติดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโผการแต่งตั้งโยกย้ายไว้เกือบจะครบถ้วนแล้ว เนื่องจากนายสุจริต และ ผวจ.ในหลายจังหวัด จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ รวมถึงจะต้องเร่งการแต่งตั้งโยกย้ายในระดับ 9-8 ลดหลั่นลงไป สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้น มีการคาดหมายว่าจะเป็นนายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ อธิบดีกรมการปกครอง

แต่มีรายงานว่านายชาญชัยต้องการที่จะอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองต่อไปจนเกษียณ จึงอาจจะมีการเสนอชื่อนายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่มีอาวุโสสูงสุด หรือนายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นปลัดกระทรวง และมีอาวุโสเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่านายชาญชัยจะตัดสินใจอย่างไร เพราะมีการวางตัวนายชาญชัยไว้แล้วในเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอธิบดีกรมต่างๆในกระทรวงมหาดไทย น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นอธิบดีกรมที่ดิน ที่อาจมีการโยกย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อธิบดีกรมที่ดิน ไปเป็นระดับ 10 ในตำแหน่งอื่น ส่วนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองนั้น หากนายชาญชัยขึ้นไปเป็นปลัดกระทรวงจริง มีกระแสข่าวว่านายพงศ์โพยม วาศภูติ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงมาแทน

ขณะเดียวกัน มีชื่อนายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา เป็นตัวเต็งในตำแหน่งนี้ ส่วนตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมดประมาณ 20 ตำแหน่ง โดยคาดว่านายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ.นนทบุรี จะขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนิคม เกิดขันหมาก ผวจ.นครพนม เป็น ผวจ.ชลบุรี นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ