คณะปฏิรูปฯ กำลังแก้ ปัญหาโจรป่วนใต้ก่อกวน เตือนให้รีบมอบตัว!

จากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กลายเป็นปัญหายืดเยื้อ และทุกฝ่ายกำลังเร่งแก้ ปัญหาลดความรุนแรงนั้น ที่หอประชุมกองทัพบก เมื่อวันที่ 24 ก.ย. พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดศาลาที่พักริมทาง หน้ากูโบโต๊ะอาเย๊าะ ต.จะบังติก อ.เมืองปัตตานี ทั้งที่ยังอยู่

ในช่วงประกาศกฎอัยการศึกว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังอยู่ระหว่างการแก้ปัญหา โดยข้าราชการทุกฝ่ายที่อยู่ในพื้นที่ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ โดยกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส. จชต.) ได้พยายามปรับการทำงานอย่างเต็มที่ การดำเนินการต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา เรายึดมั่นยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ ปัญหา แต่อยากบอกไปยังผู้ก่อความไม่สงบว่าการทำสิ่งเหล่านี้เป็นการทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นความผิดอย่างมหันต์

ทั้งกฎของสังคม กฎแห่งกรรมและกฎหมาย ทางที่ดีหากหลงผิดไปก็ขอให้มารายงานตัว กลับมาร่วมสร้างสรรค์ สันติสุขน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด รบกันไปฆ่ากันไปก็มีแต่ จะเสียหาย เจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะเข้าไปใช้ ความรุนแรง เรายึดหลักของกระบวนการยุติธรรม ต้องจับกุมมาดำเนินการตามกฎหมาย พี่น้องประชาชนก็คงจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนจับกุมคนร้ายลอบวางระเบิดในเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกัน 6 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา นั้น พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภาค 9 ส่วนหน้า จ.ยะลา เปิด เผยวันเดียวกันว่า ขณะนี้การสอบสวนคืบหน้าไปมาก ได้ เบาะแสของกลุ่มคนร้ายมากขึ้น ล่าสุดได้นำผู้ต้องสงสัยจากพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา และจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 7 คน มาสอบหาข้อมูล ซึ่งผู้ต้องสงสัยทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผลการสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 7 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุ-การณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้จึงปล่อยตัวไป

ส่วนบรรยากาศในเมืองหาดใหญ่ โดยเฉพาะย่านการค้า ย่านชุมชน ขณะนี้เงียบเหงาไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ ปกติจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนและหาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้ กลับเงียบเหงาส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา

ด้าน พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องดำเนินการปฏิบัติคือ ฝ่ายบ้านเมืองต้องเปิดทางให้กับผู้ที่หลงผิดเข้าร่วมกับกลุ่มขบวนการโดยไม่ได้ตั้งใจ ทราบว่าขณะนี้มีกลุ่มผู้หลงผิดจำนวนหนึ่งพยายามที่จะหาช่องทางออกมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

แต่ยังไม่กล้าที่จะออกมาแสดงตัว ดังนั้นจะต้องเปิดทางเปิดโอกาสให้กับผู้หลงผิดเหล่านี้ได้ออกมาแสดงตัวเพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งในเรื่องนี้จะได้มีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ต่อไป นอกจากนี้จะเร่งรัดในเรื่องการจัดหาสถานที่ก่อสร้างเรือนจำพิเศษเพื่อใช้เป็นที่คุมขังผู้ต้องหาก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว

ที่ จ.นราธิวาส ตอนเช้าวันเดียวกัน นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานเปิด งานประเพณีของดีเมืองนรา ประจำปี 2549 ที่บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีขบวนแห่ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามเข้าร่วม 25 ขบวน ท่ามกลางข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่เสด็จแปรพระราชฐานประทับ ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ประกอบกับปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ชาวนราธิวาสจึงได้ร่วมใจกันจัดงานเทิดพระเกียรติขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ที่ทรงห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวนราธิวาส ในการเข้ามาทำโครงการพระราชดำริต่างๆ ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดที่ซบเซามานานจากผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบให้กลับมาดีขึ้น และดึงคนจากจังหวัดใกล้เคียงมาท่องเที่ยวมากขึ้น

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ