สุเทพแจงห้ามแม้วบินผ่านไทยกระทบมั่นคง ปัดส่งไอพ่นถล่ม

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยนิติบัญญัตินัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม

ซึ่งมีวาระพิจารณากระทู้ถามสด โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ถามต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและการใช้อำนาจรัฐเกินกว่าเหตุกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศกัมพูชา โดยสั่งห้ามผ่านน่านฟ้าไทย หากอยู่ในเครื่องให้จับตัวลงมาให้ได้ ทั้งขาเข้าและขาออกจากกัมพูชา การสั่งให้กองทัพนำเครื่องบินเฝ้าติดตามการเข้าน่านฟ้าโดยผิดกฎหมายถึงขั้นให้ทำลาย รวมทั้งการช่วยเหลือ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยซึ่งถูกกัมพูชาจับในข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งกลายเป็นแพะรับบาปจากการสร้างประเด็นการเมืองของสองประเทศ

จากนั้นนายอภิสิทธิ์มอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ตอบกระทู้แทนว่า

เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณมาที่กัมพูชา ตอนเดินลงจากเครื่องบินสื่อก็ถ่ายทอดภาพ ก็เห็นหมายเลขเครื่องบิน ตนก็สงสัยว่า บินจากไหนไปไหน เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง จึงไปตรวจสอบและถามไปทางกรมขนส่งทางอากาศ กรมคมนาคมทางอากาศ วิทยุการบินของประเทศ ก็ได้รับคำตอบว่า เครื่องบินลำนี้ยื่นหนังสือขอบินผ่านน่านฟ้าขาไปวันที่ 9 พฤศจิกายน ขากลับวันที่ 13 พฤศจิกายน หน่วยงานที่รับผิดชอบเห็นว่า เป็นการบินไม่ประจำ ไม่มุ่งประสงค์การค้า และอากาศยานทะเบียนอเมริกาตามสัญญาชิคาโก้ ก็เลยอนุญาต ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีใครผิด แต่เมื่อเครื่องบินไปจอด คนที่ทำผิดจนศาลตัดสินแล้วและหนีศาลเดินลงมาก็เป็นการที่เครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารที่ไม่เหมาะสมผ่านประเทศไทย

"ผมมีหน้าที่ต้องตรวจสอบ เพราะคนๆ นี้มีการกระทำที่อาจกระทบความมั่นคง จึงสั่งการไปยังอธิบดีกรมการขนส่ง และวิทยุการบิน ให้ยกเลิกการอนุญาตบินขากลับที่ต้องบินผ่านประเทศไทย และแจ้งไปยังบริษัทนี้ว่าไม่อนุญาตให้เครื่องบินที่เชื่อว่าจะมี พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสารบินผ่านน่านฟ้า เป็นการใช้อำนาจตามปกติที่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง จึงมีการดำเนินการและเครื่องบินดังกล่าวก็ไม่ได้บินผ่านน่านฟ้าไทย ซึ่งมีเอกสารยืนยันและเข้าถึงได้ตามช่องทางปกติ ไม่ต้องให้วิศวกรไปจารกรรมข้อมูลจากกัมพูชา ฉะนั้น ถ้ามีการสมคบให้วิศวกรรับบาป ก็ให้เป็นบาปของคนที่สมคบกันใส่ความ" นายสุเทพกล่าว และว่า ส่วนการช่วยเหลือก็ส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปดูแล ทำตามกฎหมาย หาทนาย เตรียมหลักฐานให้สู้คดี

นายสุเทพกล่าวว่า คนที่เป็นภัยต่อประเทศไหนเข้าไปประเทศนั้น ก็โดนจับดำเนินคดีทั้งนั้น นี่เป็นมาตรฐานที่ทำกันทั้งโลก

ส่วนเรื่องเครื่องบินรบยืนยันว่าไม่ได้สั่งการอย่างที่มีการกล่าวหา ถ้าเจตนาร้ายจริงก็คงปล่อยให้เครื่อง พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาแล้ว แล้วค่อยดำเนินการ  "เรื่องการตรวจน่านฟ้า กองทัพรายงานว่า เมื่อกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการการทูตกับกัมพูชา สถานการณ์ตึงเครียดตามลำดับ กองทัพอากาศจึงมีคำสั่งทางยุทธการให้บินตรวจน่านฟ้า ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ศูนย์ยุทธการทางอากาศก็ติดตามดูกรณีเครื่องบินที่คาดว่าจะมี พ.ต.ท.ทักษิณโดยสารมา เพราะทางการไทยไม่อนุญาตให้บินผ่านแล้ว จึงมีการจัดเครื่องบินเตรียมพร้อมขึ้นบิน เฝ้าระวังไม่ให้ผ่านน่านฟ้า และเตรียม เอฟ 5 ไว้คอยช่วย แต่เมื่อถึงเวลาจริงก็ไม่ได้บินผ่าน เครื่องบินรบที่เตรียมไว้จึงบินลาดตระเวนตามปกติ" นายสุเทพกล่าว