ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางและพำนักในต่างประเทศว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบถึงการใช้ชื่อใหม่ในหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกโดยประเทศนิการากัวและมอนเตเนโกร โดยใช้ชื่อว่า "TAKKI SHINEGRA" ตนยอมรับว่า เป็นข้อจำกัดที่สร้างปัญหาในการประสานงานขอความร่วมมือกับประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปพำนักอยู่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย อีกทั้งเอกสาร รวมถึงหมายศาลที่ประเทศไทยส่งไปขอความร่วมมือติดตามตัวนั้น ระบุชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในประเทศไทย
นายพนิช กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลไทยทำได้ คือ การส่งข้อมูลให้ประเทศที่เรามีหลักฐานยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่
ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายของพ.ต.ท.ทักษิณในประเทศนั้นๆ และคำให้สัมภาษณ์ของบุคคลที่ได้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งเรื่องนี้ต่อผู้บังคับการ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อประสานงานกับตำรวจสากล ให้ทราบข้อมูลว่าบุคคลที่ใช้ชื่อ-สกุลตามตัวสะกดที่เราได้ข้อมูลมานั้น เป็นบุคคลคนเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการและประสานงานระหว่างประเทศต่อไป
นายพนิช กล่าวด้วยว่า ส่วนการประสานงานกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนได้พบกับเอกอัครราชทูตยูเออี ประจำประเทศไทย
ซึ่งเอกอัครราชทูตยูเออีระบุว่า ได้ส่งข้อมูลกลับไปยังกระทรวงการต่างประเทศของยูเออีแล้ว และยืนยันว่าให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก แต่ยูเออีเป็นประเทศเปิด มีนักธุรกิจและนักลงทุนเข้าไปจำนวนมาก ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การประสานและติดต่อกันอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่จะสามารถระบุว่าบุคคลที่ใช้ชื่ออื่นในต่างประเทศเป็นบุคคลคนเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประเทศที่พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ และการรวบรวมหลักฐานจากไทยด้วย