สุวัจน์ แนะปัญหาเพื่อนบ้านต้องคิดรอบคอบ

วันนี้ (23 พ.ย.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ทำงานมา 1 ปี

ทำให้เริ่มที่จะเห็นสิ่งดีๆ หมายความว่า ผลงานต่างๆที่รัฐบาลตั้งใจทำ อย่างตอนนี้ตัวเลขดัชนีอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เริ่มที่จะบ่งบอกถึงว่า มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะตัวเม็ดเงิน งบประมาณ เม็ดเงินโครงการไทยเข้มแข็ง อย่างตอนนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็คือว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว และกลับมาใกล้เคียงเหมือนเดิม แสดงว่า สถานการณ์พื้นฐานต่างๆทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ติดลบมากๆ ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเข้าสู่เป้าหมายแล้ว และรู้สึกว่าจะดีกว่าเป้าหมายด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก็บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ฉะนั้นตนคิดว่าวันนี้ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราเริ่มเห็นแสงสว่าง

ในเรื่องการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นสถานการณ์ต่างๆภายในประเทศขณะนี้ตนอยากเห็นทุกฝ่ายได้มีความรู้สึกตรง กันในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ถ้าวันนี้คนไทยรักกัน ไม่แตกแยกกัน ปรองดองกัน มันจะเป็นส่วนที่ส่งเสริมสนับสนุนให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆลุล่วงได้ เร็วขึ้น แต่ถ้าเกิดเรายังแตกแยกกันอยู่ ยังมีปัญหาความไม่เข้าใจกันอยู่ ยังมีการชุมนุมต่อต้านประท้วงต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้มันก็จะบั่นทอนความเชื่อมั่นการลงทุนการท่องเที่ยวในระบบ เศรษฐกิจ ซึ่งมันจะทำให้โอกหาสที่เราแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้นก็จะล่าช้าออกไป ฉะนั้นตนอยากเห็นบรรยากาศตอนนี้มันเป็นบรรยากาศที่ดี ถ้าเกิดเราเข้าใจกันและอยู่ในเกมกัน อยู่ในสิ่งที่เรารับกันได้ ให้ต่างประเทศเขามองเห็นว่า มันเป็นประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับนอกรูป นอกแบบ

เมื่อถามถึง ปัญหาความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านที่หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องบั่นทอนการ ลงทุน ไม่ไว้วางใจกัน จนถึงขั้นอาจจะมีการสู้รบและเกิดสงครามเกิดขึ้น มองอย่างไร

นายสุวัจน์ ตอบว่า ตนคิดว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มีเพื่อนบ้านล้อมรอบประเทศเราอยู่จำนวน มาก และเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจ และถ้าเกิดเรามีปัญหากระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านมากๆ หนึ่งประเทศหรือหลายประเทศมันจะก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกัน และนำไปสู่ความไม่ร่วมมือทางเศรษฐกิจ สำคัญที่สุดมันจะกระทบต่อความเชื่อมั่น ต่อภาพพจน์ ต่อการลงทุน เพราะว่าเวลาที่เขาจะไปประเทศไหนเขาก็ต้องดูว่าในประเทศนั้นเรียบร้อยหรือไม่ ชายแดนเรียบร้อยหรือไม่ ฉะนั้นวันนี้สถานการณ์ภายในประเทศเราก็ไม่เรียบร้อย ถ้าเกิดว่าชายแดนก็ไม่เรียบร้อยขึ้นมาอีก มันจะเป็นภาพที่ไม่ดีต่อความเชื่อมั่นต่อประทศ

เมื่อถามว่า ในช่วงนี้เข้าสู่หน้าหนาวแล้วและมีอากาศหนาวเย็นเหมาะในเทศกาลท่องเที่ยว โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ การลดราคาน้ำเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน

เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวมีโอกาสความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุวัจน์ ตอบว่า ทราบว่าตอนนี้นายอภิสิทธิ์ ก็ได้ให้นโยบายอยู่แล้วว่า ถ้าน้ำมันแพงมากๆก็จะมีมาตรการของทางรัฐบาลเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าตอนนี้ถ้าน้ำมันแพงมากๆ มันก็มีอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกก็คือเรื่องโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่อยู่ในราคาน้ำมันที่ได้เคยขึ้น กันเอาไว้ กับสองเรื่องเงินจากกองทุนน้ำมัน ซึ่งตนคิดว่าสองตัวนี้ก็ยังพอเป็นตัวช่วยได้ ถ้าเกิดสถานการณ์ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงไป แต่สำคัญที่สุดคือเราต้องส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานภายในประเทศ.