พรรคการเมืองยื่นมือช่วยเหลืออดีตส.ส.ตกยาก "ประจัญ กล้าผจญ" เชิดชูเป็นนักการเมืองตัวอย่าง
อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย"บรรหาร" ส่งตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนเอาเรื่องเข้าที่ประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา ส.ส.เตรียมลงขันซื้อที่ดินปลูกบ้านและทำกินในจังหวัดให้ 1 ไร่ ขณะที่ ส.ส.โคราช พรรครวมใจไทยฯ รุดช่วยเหลือ พาไปอยู่บ้านพักในศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง พร้อม หางานให้ทำเป็นที่ปรึกษาศูนย์ เจ้าตัวยืนยัน ไม่ได้ต้องการออกมาเรียกร้องอะไร เพราะชีวิตปัจจุบันถึงจะลำบากแต่ก็สบายใจ ฝากขอบคุณ"บรรหาร"และส.ส.ที่ยังห่วงใยช่วยเหลือ
จากเรื่องราวอดีตผู้แทนฯ ตกอับ นายประจัญ กล้าผจญ อายุ 68 ปี อดีตส.ส.นครราชสีมา 2 สมัย สังกัดพรรคชาติไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2522 และ 2526
ยุคที่มีพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เป็นหัวหน้าพรรค และพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นเลขาธิการพรรค ต้องมาใช้ชีวิตอย่างอนาถา อยู่ภายในบ้านเลขที่ 23 ถ.หนอง ม่วงซอย 2 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นกระต๊อบมุงสังกะสีผุๆ พังๆ เป็นรูพรุน ฝาบ้านทำด้วยเศษพลาสติกและแผ่นป้ายโฆษณากันแดดกันลม อาศัยเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาทประทังชีวิตไปวันๆ นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติไทยเดิม
ได้รับมอบหมายจากนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคนปัจจุบัน พร้อมด้วยนายสุรพันธ์ ดิสมาน นายอำเภอบัว ใหญ่ เดินทางไปยังบ้านพักของนายประจัญ เพื่อเยี่ยมเยียนสอบถามถึงความเป็นอยู่ พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่ง และผ้าห่มกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น
จากกระตอบ อยู่เรือนไทย
นายวัชระกล่าวว่า นายบรรหาร และนายชุมพล มีความเป็นห่วงและยังระลึกถึงคุณงามความดีของนายประจัญ
ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับพรรคชาติไทยเอาไว้ และยกย่องเป็นส.ส.ที่ดี เป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่ไม่เคยใช้เงินซื้อเสียง และไม่หาประโยชน์ให้กับตัวเอง ในวันที่ 23 พ.ย.ตนเองจะแจ้งเรื่องนี้ให้กับนายบรรหารรับทราบพร้อมนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนาเพื่อหาทางช่วยเหลือนายประจัญต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาจะลงขันกันเพื่อจัดซื้อที่ดินประ มาณ 1 ไร่ในเขต อ.บัวใหญ่ ราคาประมาณ 6 หมื่นบาทให้นายประจัญ เพื่อเป็นที่ทำกินและสร้างบ้านพักอาศัยเป็นของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายวัชระ และนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้พานายประจัญ ขึ้นรถเดินทางไปยังศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก
ริมอ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ ต.โนนเต็ง อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งนายสมชัยร่วมกับชาวบ้านหนองไอ้อู๊ก สำนักงานเกษตรอำเภอคง และชลประทานจังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการ ปลูกผักปลอดสารพิษตามแนวพระราชดำริ เพื่อสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านตำบลโนนเต็ง บนเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ โดยในศูนย์มีการปลูกสร้างบ้านพักรับรองแบบเรือนทรงไทยใต้ถุงสูงไว้ริมอ่างเก็บน้ำ โดยนายสมชัยได้จัดห้องพักให้นายประจัญอยู่อาศัย และตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับนายประจัญ ที่บอกจะอาศัยอยู่ที่นี่ ช่วยเหลือชาวบ้านไปจนถึงบั้นปลายของชีวิต หรือจนกว่าทางศูนย์จะไม่ต้องการตนเอง
นายประจัญกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณไปยังนายบรรหาร อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรค ชาติไทย ที่ทราบข่าวแล้วแสดงความเป็นห่วงตนเอง
ส่วนตัวแล้วตนเองไม่ได้ต้องการออกมาเรียกร้องสิ่งใด เพราะความเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงจะลำบากแต่ก็สบายใจ แต่เมื่อมีผู้ใหญ่แสดงเจตจำนงที่จะช่วยเหลือเช่นนี้ตนเองก็ยินดีและต้องขอขอบคุณนายสมชัย ที่มีความปรารถนาดี จัดหาที่พักอาศัยแห่งใหม่ให้ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก ตนประทับใจบรรยากาศ และพอใจเป็นอย่างยิ่ง ตรงกับแนวความคิดของตนเองพอดี โดยจะขออาศัยอยู่ในศูนย์แห่งนี้และคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับชาวบ้านในการทำการเกษตรปลอดสารพิษ เพราะตนเองก็ได้ศึกษาเรื่องนี้มาพอสมควร จนกว่าชาวบ้านจะไม่ต้องการตนเอง
อดีตส.ส.โคราช 2 สมัย กล่าวด้วยว่า อยาก ฝากถึงนักการเมืองในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มาจากนักธุรกิจ อาศัยเงินในการสร้างชื่อเสียงและสร้างฐานการเมืองให้กับตนเอง
เมื่อเข้ามาบริหารประเทศก็จะกอบโกยเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง จนในที่สุดส่งผลให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงเช่นปัจจุบัน และผู้ที่ต้องรับกรรมคือประชาชนและประเทศชาติ ด้านนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ กล่าวว่า เข้า ไปช่วยเหลือนายประจัญในฐานะเป็นส.ส.รุ่นพี่เขตเดียวกัน นายประจัญหาเสียงด้วยการขี่จักร ยาน 2 ล้อ และมีชอล์กอยู่ในมือ ไปถึงบ้านไหนก็เขียนเบอร์ที่ตนเองสมัครไว้บ้านนั้น เพื่อให้ชาวบ้านจดจำได้ นายประจัญยังเคยเป็นข้าราชการครูมา 23 ปี และรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารผ่านศึกไปรบที่เวียดนามอีก 1 ปี แต่ต้องกลับมาอยู่อย่างอนาถาขาดการดูแล ตนก็รู้สึกตกใจและเห็นใจจึงชักชวนให้มาพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก ซึ่งนายประจัญก็พอใจที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ ทั้งนี้ นายประจัญถือเป็นแบบอย่างของส.ส.น้ำดี ไม่ใช้เงินซื้อเสียง ไม่กอบโกยหาผลประโยชน์จนทำให้ตนเองร่ำรวย สังคมการเมืองไทยน่าจะยกย่องคนดีอย่างนี้
ด.ต.ผดุง จันทร์นอก ชาวอำเภอบัวใหญ่ เพื่อนรุ่นน้องของนายประจัญ กล่าวว่า ตนเองชื่นชมนายประจัญ เพราะเป็นนักการเมืองที่หาเสียงด้วยวิธีเดินเคาะประตูบ้าน
ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ชาวบ้านโดยไม่ใช้เงินซื้อเสียง จนได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขตบัวใหญ่ ติดต่อกัน 2 สมัย ตนมาสนิทตอนที่นายประจัญเป็นส.ส.สอบตกหมดตัวขาดคนเหลียวแล ซึ่งก็ได้เข้าไปช่วยเหลือบ้างตามสมควร เดิมนายประจัญมีบ้านไม้หลังใหญ่มีเสาบ้าน 16 ต้น แต่เมื่อชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือเรื่องต่างๆ นายประจัญก็ให้จนตนเองไม่เหลืออะไรเลย จนปัจจุบันต้องมาปลูกกระต๊อบเพิงหมาแหงนอยู่ ตนถือว่านายประจัญคือส.ส.ในดวงใจ เป็นแบบอย่างที่ดีของนักการเมือง และรู้สึกดีใจที่ยังมีคนเห็นความสำคัญของอดีตส.ส.ที่ดีแต่ยากจน และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ