แม้วค้างคืนบ้านซี้เก่า มหาเศรษฐีอัลฟาเยด

"ท่านไม่ได้พักที่เคนซิงตัน กรีน บ้านลูกสาว หรอกครับ ผมไม่รู้ว่าท่านพักที่ไหน คาดว่าคงอยู่ที่พักแถวไฮด์ปาร์ค ตอนนี้เราไม่ได้ไปตามแล้วครับ เพราะถือว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี" ข้าราชการหนุ่มแบ่งรับแบ่งสู้ ออกตัวป้องบทบาทของหน่วยงานต้นสังกัดกับภารกิจติดตามอดีตผู้นำ

บริเวณโดยรอบไฮด์ปาร์คเองมีธุรกิจหลากประเภท ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โชว์รูมรถหรู โรงแรมที่พัก และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ "55 พาร์ค เลน"

สำนักงานอสังหาริมทรัพย์ไม่ห่างไปนักติดป้ายโฆษณาราคาที่พักขนาดสี่ห้องนอนในย่านนี้อยู่ที่ 4.7 ล้านปอนด์ ราคาต่ำกว่านี้ก็มีอย่าง 85,000 ปอนด์ แต่ได้เฉพาะแค่ที่จอดรถ คนพักอาศัยแถวนี้ใช่ว่ามีแต่คนอังกฤษเจ้าของชาติ แต่กลับเป็นคนจากหลากเชื้อเผ่าพันธุ์ แตกต่างกันหลายศาสนา ทั้งอาหรับ อินเดีย รัสเซีย แต่สิ่งหนึ่งที่ดูจะเป็นจุดเหมือนคือคนเหล่านี้ "รวย"

ที่อาคาร 55 พาร์ค เลน ค่ำนั้น รถโฟว์วีลไดรฟ์คันหนึ่งปราดเข้ามาจอดหน้าตัวอาคารที่ไม่สูงนัก ชายในชุดสูทตัดเย็บเรียบร้อยดูเนี้ยบยังนั่งอยู่หน้าพวงมาลัยไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนจากตำแหน่งคนขับ

20 นาทีให้หลังชายหนุ่มยืดตัวบ่งบอกความพร้อม ขณะที่หญิงสาวในชุดราตรีผ้าซาตินขาว กับอีกสองสาวในชุดกระโปรงสั้นประดับด้วยไข่มุกดูเก๋ ก้าวออกจากประตูอาคาร ก่อนผลุบเข้าไปนั่งประจำที่ให้สารถีนำรถสีดำวาวค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป ดูจากการแต่งตัวแล้วเป็นไปได้ว่าสามสาวอาจกำลังไปชมแฟชั่นโชว์ "จิออร์จิโอ อาร์มานี" ที่เปิดตัวคอลเลคชั่นล่าสุดในกรุงลอนดอนไปเมื่อคืนวันที่ 21 กันยายน

คนดูมีอันจะกินอย่างสามสาวนี่กระมังถึงจะมีสิทธิพักใน 55 พาร์ค เลน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหารของ แฮร์รอด เอสเตท เจ้าของก็คือโมฮัมเหม็ด อัลฟาเยด ที่เชื่อกันว่าเป็นเพื่อนสนิทของอดีตเจ้าพ่อโทรคมนาคมไทย

นี่จะใช่เหตุผลที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลือกมานอนข่มตาหลับหลังเส้นทางการเมืองพลิกผันให้ต้องเปลี่ยนแผ่นดินอยู่หรือไม่ ไม่มีใครล่วงรู้

แต่ที่แน่ๆ การพักค้างคืนที่นี่หนึ่งสัปดาห์ ในห้องพักขนาด 1 ห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก ต้องควักกระเป๋าไม่ต่ำกว่า 600 ปอนด์ แต่ถ้าอยากมีบริเวณให้หายใจหายคอกว้างขึ้นหน่อย เลือกห้องพักประเภทสี่ห้องนอน ก็ต้องเตรียมเงินปอนด์ไว้สัก 4,000 ปอนด์ เพื่อพักสบายๆ หนึ่งสัปดาห์

ถนนด้านหน้าเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่ราคาค่าเช่าหนึ่งอาทิตย์แพงเกินเงินเดือนคนเดินนี้ จ้อกแจ้กจอแจไม่น้อย แต่เมื่อได้ก้าวเท้าผ่านประตูกระจกอัตโนมัติเข้าไปในตัวอาคาร ความเงียบทำให้รู้ว่ามันน่าพึงพอใจเพียงใด พื้นหินอ่อนลาดพรมสีแดง กระจกบานใหญ่ประดับสองข้างทางเดินดูโอ่โถง นำทางไปสู่ห้องรีเซฟชั่นที่พอร์ตเตอร์หนุ่มสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังโต๊ะไม้รูปไข่ ส่งคำถามมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม

"มีอะไรให้ช่วยครับ?"

"อยากจะฝากข้อความถึง พ.ต.ท.ทักษิณ?"

"ได้เลยครับ แต่ท่านแจ้งกับเราว่าไม่ต้องการรับแขกครับ"

อดีตนายกรัฐมนตรียังคงไม่ต้องการพูดอะไรกับสื่อมวลชน ขณะที่คนใกล้ชิดออกมาให้ข้อมูลว่า "เขาต้องการพักผ่อน" ยังไงก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณไม่ถึงกับเก็บตัวเงียบ อย่างน้อยๆ ในวันนั้น (21 ก.ย.) เขาออกจากที่พักพร้อมพิณทองทา ลูกสาว และเอ่ยปากกับสื่อที่ยังตามเฝ้าไม่ห่างว่าอยู่ระหว่างพักร้อน จะไปหาซื้ออาหารไทยเสียหน่อย

นี่ พ.ต.ท.ทักษิณจะหันมาใช้ชีวิตง่ายๆ ตามสไตล์เศรษฐี ทำตัวสบายๆ เพื่อให้ลืมฝันร้ายที่เพิ่งถูกกระทำรัฐประหารและตกจากเก้าอี้ผู้นำหรือไม่

เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้คำตอบ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์มติชน