เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. วันที่ 17 พ.ย. นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกร บ.สามารถเทเลคอม
ซึ่งถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวไว้ ได้รับสายโทรศัพท์จากอุปทูตไทยประจำประเทศกัมพูชา โดยได้เปิดโอกาสให้นางสิมารักษ์ กับนายศิวรักษ์ แม่ลูกได้มีโอกาสพูดคุยกันไม่ถึง 5 นาทีก็วางสาย นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ตนเองดีใจมากที่ได้มีโอกาสคุยโดยตรงกับลูกชาย เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ว่าข่าวสารทางสื่อมวลชนที่มีหลายฝ่ายออกมาบอกว่าลูกชายของตนเองยังคงปลอดภัยดี แต่ตนก็ยังไม่รู้สึกสบายใจ แต่มาวันนี้ได้ยินจากปากของลูกชายก็มั่นใจมากยิ่งขึ้นและรับรู้ได้ว่าลูกชายของตนเองยังปลอดภัยดี โดยนายศิวรักษ์ บุตรชายได้บอกกับตนเองว่า ตอนนี้สบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางกัมพูชาไม่ได้ทำอันตรายใดๆตนเอง และยังให้การดูแลเป็นอย่างดี ตนเองไม่ได้รับอันตรายใดๆ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวเรื่องราวทุกอย่างก็จบลงแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี
ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รมช.ต่างประเทศกัมพูชาได้โทรศัพท์แจ้งผ่านมายังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อค่ำวานนี้ โดยระบุว่า วันนี้จะประสานงานให้เราไปยื่นหนังสือ เพื่อขอหมายศาลและขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายในการขอพบตัวนายศิวรักษ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทย จะไปเดินเรื่องที่ศาล โดยในเบื้องต้นดูเรื่องของข้อกล่าวหาและความเป็นอยู่ตามระเบียบข้อปฏิบัติปกติกรณีการดูแลของเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศต่อคนไทยที่ถูกจับกุม ซึ่งเข้าใจว่านายศิวรักษ์คงมีทนายชาวกัมพูชาที่มีความเชี่ยวชาญการทำคดีอยู่แล้ว โดยทางกระทรวงฯมีหน้าที่ประสานงานกับคณะทนายของนายศิวรักษ์ และดูแลความสะดวกต่างๆในการต่อสู้คดี
เมื่อถามถึงกรณีที่นางสีมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ แสดงความเป็นห่วงเรื่องโรคประจำตัวของนายศิวรักษ์ นายปณิธาน กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่นายศิวรักษ์ถูกจับกุม
สถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้ประสานขอให้มีการดูแลด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะการส่งเครื่องใช้และยาประจำตัวที่นายศิวรักษ์ต้องการ ซึ่งทางกัมพูชาได้ตอบรับมาว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา ส่วนในประเทศไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้จัดตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องนี้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เชื่อว่าฝ่ายกัมพูชามีกระบวนการทางกฎหมายของกัมพูชาเอง ซึ่งเราเคารพและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยจะรอให้กระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาทำงาน ขณะที่เราจะประสานงานไปเป็นระยะๆ ตนเข้าใจว่าหลังจากส่งเอกสารขอพบตัวผ่านทางศาลกัมพูชาแล้ว น่าจะได้พบนายศิวรักษ์และทราบข้อหาที่ชัดเจนภายในวันนี้ แต่ถ้ามีข้อขัดข้องใด เราจะได้ดูในขั้นตอนต่อไป ซึ่งเราเตรียมไว้บ้างแล้ว