สเปกนายกใหม่ เน้นนักกฎหมาย

ที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ในฐานะรองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ให้สัมภาษณ์ถึงตัวบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อเวลา 13.45 น. วานนี้ (22 ก.ย.) ว่า อีกไม่นานคงได้ข้อสรุป โดยจะพยายามค้นหา คัดเลือกผู้ที่เป็นกลางที่สุด ต่อการแก้ไขการปฏิรูปรัฐธรรมนูญที่มีข้อขัดข้องในบางประเด็นให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ดังนั้น ระยะเวลาที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีคงต้องเร็ว

เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัว อีกทั้งผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ต้องเต็มใจ พยายามทำให้การแก้ไขการปฏิรูปรัฐธรรมนูญในบางประเด็นที่มีข้อขัดข้องให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่า ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือกฎหมาย พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า ณ วันเวลานี้น่าจะรู้เรื่องกฎหมายด้วย เพราะเป็นประเด็นสำคัญ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจน่าจะให้รองนายกฯ หรือรัฐมนตรี เข้ามาดูแลได้ แต่การปฏิรูปครั้งนี้เป็นการปฏิรูปทางการเมือง

ผู้บัญชาการทหารอากาศกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ชื่อของแต่ละคน อยู่ระหว่างการพิจารณา และยังไม่มีการทาบทามใคร หลังจากได้พิจารณาแล้วคงจะได้ทาบทาม ซึ่งชื่อที่อยู่ในข่ายพิจารณาอาจจะมากกว่า 5 คน เพราะผู้ที่เหมาะสมมีหลายคน ส่วนรัฐมนตรีร่วมคณะคงต้องรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อน

วันเดียวกัน ที่ศาลปกครอง ถนนสาทร นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวได้รับทาบทามจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ตอบได้เลยว่ายังไม่มีการติดต่อมา และวันนี้ก็มีประชุมทั้งวันงานเต็มมือ ถึงเวลาทำงานแต่ละวันก็ทำไป เรื่องนี้มันมีกระบวนการทำเยอะ ตนไม่ใช่คนพูดกลับไปกลับมา ไม่มีก็คือไม่มี ถ้ามีก็บอกว่ามี เมื่อถามว่า ถ้ามีคำสั่งจริงจะยอมรับหรือไม่ นายอักขราทรตอบว่า บอกแล้วไม่มีคำว่าถ้า

อย่าไปพูดอย่างนั้น ของสูงทำเล่นไปได้ ถึงเวลาก็เป็นไปตามนั้น เราก็ทำงานของเราไป รอให้มีความแน่นอนก่อน เมื่อถามว่า พร้อมที่จะมาทำงานรับใช้ชาติหรือไม่ นายอักขราทร ตอบว่า ผมพร้อมทุกงานอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดไม่ได้ ส่วนบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นแบบไหนนั้น ยังไม่รู้เพราะไม่ใช่คนแต่งตั้ง ตอบไม่ได้ เดี๋ยวไม่ตรงสเปกกับคนที่จะมาเป็นแล้วจะยุ่งตายโหง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่าที่เหมาะสมเพราะเป็นนักกฎหมายมหาชน และสามารถประสานงานกับทุกฝ่ายได้ นายอักขราทรตอบว่า คนที่เป็นนักกฎหมายมหาชนมีเป็นจำนวนมาก และผมเป็นเพียงนักกฎหมายธรรมดา เพียงแต่ทำงานด้านนี้มานานเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอักขราทรได้เดินทางมาทำงานที่ศาลปกครองสูงสุดตามปกติ แต่มีสีหน้ายิ้มแย้มกว่าทุกวัน และเป็นที่น่าสังเกตว่าได้มีการยกเลิกกำหนดการสัมมนาและตรวจเยี่ยมศาลปกครองจังหวัดระยอง เดิมจะต้องเดินทางไปในวันที่ 22 ก.ย.นี้ด้วย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ