สบน.เผย"สภาล่ม"ทำกรอบเจรจาตก กระทบกองทุนเชียงใหม่ ปชป.บอกหมดปัญญา ร้อง"ส.ส.-ส.ว."รักษาศักดิ์ศรี นายจักรกฤศฎ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 พฤษจิกายนถึงกรณีที่กรอบการเจรจาข้อตกลงการจัดตั้งกลไกค้ำประกันเครดิตและการลงทุนและกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยต้องชำระ ความตกลงพหุภาคีอาเซียนไม่ผ่านการลงมติเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากสมาชิกเข้าร่วมไม่ครบองค์ประชุมว่า จะต้องเสนอกลับไปใหม่ในการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้าย ก่อนปิดสมัยประชุมสภา หากไม่ผ่านหรือไม่สามารถพิจารณาได้ทัน ต้องรอเปิดสภาอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะกระทบต่อการชำระเงินในกองทุนริเริ่มเชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของอาเซียนบวก 3
สบน.เผยกรอบเจรจาตก เพราะ"สภาล่ม" กระทบตั้งกองทุนเชียงใหม่ เผยหากไม่ทันสมัยประชุมนี้ ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ พรรคแกนนำรัฐบาลอ้อมแอ้ม อ้างสุดวิสัยที่จะป้องกันได้ ร้องสมาชิกปกป้องศักดิ์ศรีไม่ให้ตกต่ำกว่านี้
"หากหลุดไปอีกในการประชุมสัปดาห์หน้า เราต้องปรับกลยุทธ์และทำให้กองทุนริเริ่มเชียงใหม่ ที่เราคิดว่าจะสามารถใส่เงินลงไปและเดินไปพร้อมกับอาเซียนบวก 3 สะดุดลงได้ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่เขาไม่มีปัญหาเขาก็คงเดินหน้าต่อ" นายจักรกฤศฎ์ กล่าว
นายจักรกฤศฎ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรอบการเจรจาเงินกู้ต่างประเทศภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 ได้ผ่านการลงมติไปแล้ว ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า องค์ประชุมการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนไม่ครบ ทำให้สภาล่มถึง 3 ครั้ง ในการประชุม 4 วัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นเรื่องอัปยศของสภาไทย แต่เป็นเรื่องสุดวิสัยที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะป้องกันได้ เพราะประชุมร่วมสองสภา ต้องมีองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งที่ 312 คน ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมี 247 คน ไม่นับรัฐมนตรี แม้ ส.ส.รัฐบาลมาทุกคน ก็ไม่ทำให้องค์ประชุมครบได้ ซึ่งถ้าเป็นประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ว่าไปอย่าง เพราะ ส.ส.รัฐบาลต้องรับผิดชอบองค์ประชุมอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การประชุมที่ล่ม มี ส.ว.อยู่ลงมติเพียง 56 คน ฉะนั้น ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจาก ส.ว.และ ส.ส.ฝ่ายค้าน องค์ประชุมไม่ครบแน่ ฉะนั้นขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนปกป้องศักดิ์ศรีของสภาไม่ให้ตกต่ำกว่านี้ และให้เป็นครั้งสุดท้ายที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะล่ม และทุกคนต้องเคร่งครัดในหน้าที่ของตนเอง อย่าโทษคนอื่น
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กัมพูชานั้น นักการเมืองเป็นผู้แทนปวงชน ฉะนั้นต้องมีสำนึก ทำประโยชน์ให้ประเทศและประชาชนไทย ไม่ใช่ทำเพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยดึงชาติอื่นมาต่อต้านต่อรองเพื่อประโยชน์เฉพาะบุคคล
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
