ไทยต้องยึดมาตรฐานการทูตสากลเท่านั้น

คมชัดลึก : ศุกร์ที่ 13 ฝรั่งบางคนเชื่อว่าเป็นวันโชคร้าย แต่คนไทยถือว่าเป็นวันโชคดี เพราะว่า "สุข" เขียน ส.เสือ สระอุ ข.ไข่ ย่อมถือว่าเป็นวันแห่งความสุขได้ ถ้าหากเราไม่มองข้ามชายแดนไปที่กัมพูชา เพราะว่านั่นเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ระทมของคนจำนวนไม่น้อย

 โดยเฉพาะทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในขณะนี้ไม่แน่ใจว่าบทบาทของตัวเองเป็นอย่างไร เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเขมร ที่กำลังมีเรื่องมีราวกับประเทศไทยจะนอนหลับได้อย่างไร เป็นคำถามที่คุณทักษิณจะต้องถามตัวเองเวลาอยู่คนเดียว  เวลาไม่ต้องตอบคำถามของสื่อมวลชน หรือว่ากำลังเลกเชอร์ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขมรเพื่อแก้ปัญหายากจน

 ถ้าคุณทักษิณสามารถไปสอนให้คนเขมรแก้ปัญหายากจนได้ ฮุน เซน จะเหลืออะไร  อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 20 กว่าปี ไม่สามารถแก้ความยากจนได้ คุณทักษิณมาวันเดียวจะแก้ได้นี่จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

 แต่ในแง่ของการทูตวันนี้ รัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ต้องสุขุมรอบคอบ เพราะว่ารัฐบาลฮุน เซน จงใจที่จะยั่วยุอย่างชัดเจน ล่าสุดที่มีการไล่ให้เลขานุการเอกของสถานทูตประเทศไทยประจำกรุงพนมเปญกลับบ้าน เรียกว่าเป็นเพอร์โซนา นัน กราต้า หรือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น ต้องถือว่าเป็นมาตรการที่รุนแรงเกินกว่าที่เคยคาดคิด

 รัฐบาลไทยตอบโต้ด้วยการส่งเลขานุการเอกของสถานทูตเขมรในประเทศไทยกลับเช่นเดียวกัน จะเรียกว่าตาต่อตาฟันต่อฟันก็ได้ แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยต้องรู้ว่า นี่เป็นกลยุทธ์ของฮุน เซน ที่ต้องการจะสร้างภาพว่า เขาพร้อมที่จะตอบโต้รัฐบาลไทยในทุกจังหวะทุกเรื่องเพียงเพื่อปกป้องทักษิณ ชินวัตร

 แน่นอนประชาคมโลกจะต้องตัดสินพฤติการณ์ของฮุน เซน จากมาตรฐานสากล ซึ่งก็แปลว่าถ้าฮุน เซน ใช้การทูตแบบเถื่อนแบบดิบ ประเทศไทยไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีการเดียวกัน

 วิธีการของประเทศไทยควรจะให้ชาวโลกได้เห็นถึงความไม่ปกติของนายกฯ ฮุน เซน ที่ไปสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ถูกศาลไทยตัดสินจำคุก 2 ปี กรณีทุจริตต่อหน้าที่ มิใช่เรื่องการเมืองแต่ประการใด

 ฉะนั้น คุณอภิสิทธิ์จะต้องมองทางเลือกทางการทูตอย่างชัดเจน ต้องประกาศอย่างหนักแน่นว่าจะไม่มีการปิดชายแดน จะไม่ให้ประชาชนสองฝั่งต้องเดือดร้อน เพราะการกระทำของคนเพียงคนเดียวหรือสองคน เช่น ทักษิณ และฮุน เซน  เรื่องนี้ประวัติศาสตร์จะเป็นผู้ตัดสิน

สุทธิชัย หยุ่น