คมชัดลึก : กต.ยังไม่เรียก จนท.ทูตไทยกลับหมด ยืนยันไม่ใช้มาตรการทางทหาร หลังเลขาฯ สถานทูตไทยถูกกัมพูชาขับกลับประเทศ ชี้หนุ่มวิศวกรไทยรู้ข้อมูลการบินตามหน้าที่อยู่แล้ว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาขับ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ออกนอกประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ว่า ยังไม่ทราบเหตุผล ไม่ทราบว่ามีใครไปพูด หรือมีขบวนการจ้องทำลายหรือไม่ ขอตั้งข้อสังเกตว่าทางการกัมพูชาได้เชิญเลขานุการเอกออกนอกประเทศ ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายที่กระทรวงการคลังของกัมพูชาจบแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่จำเป็นต้องเรียกตัว นายชโลธร เผ่าวิบูลย์ อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กลับไทย โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ไทยทำงานอยู่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ 3 คน และผู้ช่วยทูตทหาร อีก 3 คน ส่วนตัวของ นายคำรบ ขณะนี้กำลังหาทางให้เดินทางกลับโดยเครื่องบินหรือรถยนต์ ซึ่งคาดว่าจะถึงประเทศไทยพรุ่งนี้ (14 พ.ย.)
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการทางทหาร ส่วนการทบทวนการยกเลิกมาตรการในการให้ความช่วยเหลือกัมพูชานั้น จะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้นำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรง และยืนยันยังไม่มีแนวคิดปิดด่านพรมแดน โดยรัฐบาลไทยจะใช้ความอดทนอดกลั้น และระมัดระวังไม่ตอบโต้ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ หลังจากฝ่ายตรงข้ามพยายามขยายวงกว้างออกไป
อย่างไรก็ตาม คงไม่จำเป็นต้องนำปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาไปชี้แจงต่อ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ในระหว่างการประชุมเอเปก ที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะเป็นปัญหาทวิภาคี และเพื่อไม่ให้กระทบบรรยากาศการประชุม
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงการที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัว นายศิวลักษณ์ โชติพงษ์ เจ้าหน้าที่สัญชาติไทย ประจำหน่วยงานจราจรอากาศกัมพูชา ว่าสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ กำลังประสานงานดูแลและขอความยุติธรรมจากทางการกัมพูชาว่ากรณีนี้เป็นเรื่องอะไร เพราะในเบื้องต้น ตนเข้าใจว่า นายศิวลักษณ์ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของกำหนดการเดินทางโดยเครื่องบินอยู่แล้ว ถ้าเขาทราบข้อมูลดังกล่าว ก็ไม่น่าจะเข้าลักษณะว่าเป็นการขโมยข้อมูล แต่อาจรับทราบข้อมูลตามหน้าที่การทำงานอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ส่วนกระแสข่าวที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทั้ง 2 กรณีนี้เกี่ยวข้องกันนั้น เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ ตนได้สอบถาม นายคำรบ แล้ว ซึ่ง นายคำรบ ยอมรับว่า รู้จักกับ นายศิวลักษณ์ แค่ผิวเผินในกลุ่มคนไทยที่อยู่ในกัมพูชา แต่ไม่ได้สนิทคุ้นเคยกัน และยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้ นายศิวลักษณ์ หาเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงมองว่าการสั่งการให้เลขานุการเอกเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนานั้น เป็นคนละเรื่องกับการโจรกรรมข้อมูลเที่ยวบิน