มองผ่านสายตาสื่อเขมรพระวิหาร-แค้นฝังหุ่น

คมชัดลึก : อีกหนึ่งบทบาทที่มีคนจับตามองกันเยอะที่กรุงพนมเปญ ตลอดสี่วันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางมาสานสัมพันธ์กับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และแสดงวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจ พร้อมๆ กับการจุดชนวนความบาดหมางในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา คือสื่อมวลชน

หลายคนสงสัยถึงหน้าที่การทำงานของผู้สื่อข่าวทั้งของไทยและต่างชาติในประเทศกัมพูชา ว่าถึงวันนี้ มีอิสระในการทำงานแค่ไหน และทำไมถึงมีข่าวการห้ามนักข่าวไทยเข้าไปทำข่าวที่ไม่น่าจะมีพิษภัยต่อประเทศกัมพูชาอย่าง การบรรยายสาระเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของกัมพูชา

 เรื่องบทบาทของสื่อมวลชนในประเทศกัมพูชา สมิทธี เพ็ญญ์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา และ คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา เล่าให้ฟังว่า ถึงวันนี้รัฐบาลกัมพูชาเฉลียวฉลาด และตามโลกได้ทันท่วงทีมากขึ้น เมื่อก่อนวิธีการจัดการแบบกระสุนนัดเดียวอาจจะใช้การได้ดีกับนักข่าวที่ล้วงลึกข้อมูลของรัฐบาลมากเกินไป แต่ทุกวันนี้ถ้าทำเช่นนั้นก็จะโดนสังคมจับจ้อง วิธีการของรัฐบาลกัมพูชาในปัจจุบัน คือใช้กลไกของศาลในการจัดการกับนักข่าวที่รัฐบาลกัมพูชาเห็นว่า เขียนเรื่องราวในมุมมองที่ “ไม่น่ารับฟัง” ซึ่งการใช้กลไกศาลฟ้องร้องนักข่าวนี้ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชาบอกว่าได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาถ้าเรื่องถึงโรงถึงศาลเมื่อไหร่ นักข่าวเขมรเป็นอันได้เข้าซังเตทุกคน

 สำหรับคำถามที่ว่าทำไมนักข่าวไทยถึงไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปทำข่าวการบรรยายของคุณทักษิณที่กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินกัมพูชา สมิทธี เพ็ญญ์ เชื่อว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้มีเจตนากันนักข่าวไทยออก และน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าที่ไม่มีนักข่าวไทยแม้แต่คนเดียวที่ได้เดินเข้าไปในอาคารบรรยาย แต่ สมิทธี เพ็ญญ์ ก็ยอมรับว่า ถึงวันนี้รัฐบาลกัมพูชาก็ขุ่นเคืองรัฐบาลของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอยู่มาก โดยเฉพาะประเด็นปราสาทพระวิหาร ที่คนเขมรแทบทุกคนมองว่า ตั้งแต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง ดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยก็จ้องจะเอาสมบัติที่คนเขมรหวงแหนอย่างปราสาทพระวิหารคืนตลอด ต่างกับคุณทักษิณที่ตั้งแต่สมัยเป็นนักธุรกิจขายคลื่นโทรศัพท์ จนก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ที่มีแต่นโยบายลด แลก แจก แถม ทั้งนั้น

 กับความสงสัยเรื่องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของชาวกัมพูชา ที่แตกต่างไปจากการรับรู้ของคนไทย อย่างเรื่องที่คนเขมรมองว่า คุณทักษิณถูกรัฐบาลของนายกฯ อภิสิทธิ์ป้ายสีเรื่องความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง สมิทธี เพ็ญญ์ ชี้แจงว่า ถึงวันนี้รัฐบาลกัมพูชายังคงมีอิทธิพลกับสื่อเขมรอยู่ อย่างโทรทัศน์ 2 ช่องได้แก่ บายน, ทีวีเค และหนังสือพิมพ์ พนมเปญโพสต์ แต่ก็มีสื่อทางเลือกอย่าง กัมพูชาเดลี่ ที่ดูจะมีอิสระมากที่สุด

 "ที่น่าเสียดายคือคนกัมพูชานิยมชมชอบเสพสื่อของภาครัฐมากกว่า เพราะคนเขมรหลายคนยังมีความความรู้สึกอุ่นใจอุ่นกายกับการที่ได้อยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล"

 สมิทธี เพ็ญญ์ ยอมรับตลอดสี่วันที่ผ่านมา บรรดาสื่อมวลชนเขมรติดตามทำข่าวการเดินทางมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยความสนุกสนานตื่นเต้นท้าทาย เพราะถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกสนใจแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในพนมเปญ ที่สำคัญยอดขายหนังสือพิมพ์ทุกหัวเพิ่มขึ้นเท่าตัว ตั้งแต่สองวันก่อนที่คุณทักษิณจะเดินทางมาถึงพนมเปญ

 ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนกัมพูชาเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจาก พ.ต.ท.ทักษิณ

นภจักษ์ อัตตนนท์ ผู้สื่อข่าว เนชั่นแชนแนล