จี้ผู้นำอาเซียนแก้ข้อพิพาทไทย-เขมร

คมชัดลึก :"สุรินทร์"จี้ผู้นำอาเซียนเร่งหารือแก้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา นักวิเคราะห์เสนอมุมมองทั้งบวกและลบในการแก้ปัญหาของอาเซียน กัมพูชายันร่วมหารือหากไทยเห็นด้วย

(13พ.ย.) หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ ของกัมพูชา รายงานอ้างคำกล่าวของนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการสมาคมอาเซียนว่า บรรดาผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ต่างหารือกันเป็นการเร่งด่วน ถึงแนวทางปลดชนวนความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยนายสุรินทร์ได้กล่าวที่ลี กวน ยู สคูล ออฟ พับบลิค ดิพโพลเมซี่ ของสิงคโปร์ว่า สงครามน้ำลายระหว่างกัมพูชากับไทย ในประเด็นการไปปรากฎตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศกัมพูชา ได้เป็นสาเหตุให้เกิดความวิตกอย่างลึกซึ้งในบรรดาผู้นำในภูมิภาค

รายงานระบุว่า ได้เกิดความวิตกว่า ความเป็นปรปักษ์ระหว่างกันอาจส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะมีประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เข้าร่วมในการประชุมนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพด้วย

นายสุรินทร์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการหารือกันในระดับสูงสุดทางการทูตสำหรับอาเซียน ทุกคนต่างรู้สึกร่วมกันว่า มีความจำเป็นต้องทำให้ความขัดแย้งบรรเทาลง ก่อนที่จะประชุมร่วมกับประธานาธิบดีโอบาม่า ซึ่งทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่พิพาทกัน จำเป็นต้องการได้รับความช่วยเหลือในการแก้ปัญหา และการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกับผู้นำสหรัฐ จะช่วยให้บรรดาผู้นำอีก 8 ชาติ ในอาเซียน มีโอกาสให้ความช่วยเหลือในการลดอุณหภูมิแห่งความโกรธแค้นต่อกันลง เมื่อใดก็ตามที่ความรู้สึกชาตินิยมจะถูกกระพือโหมขึ้นมา เช่น กรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ซึ่งสำหรับเขา ตอนนี้มีหน้าต่างแห่งโอกาสได้เปิดรับแล้วที่สิงคโปร์ ที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายบรรเทาการเป็นปรปักษ์ต่อกันลง

นายกอย กวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาสนับสนุนทุกแนวทางในการแก้ปัญหาข้อพิพาท ที่รวมถึงการเจรจาหลายฝ่าย โดยยืนยันว่า กัมพูชาม่ต่อต้านข้อเสนอในเบื้องต้นของนายสุรินทร์ ตราบเท่าที่ไทยยอมเห็นด้วย

นายกอย กวง ยังระบุด้วยว่า กัมพูชาต้องการให้การประชุมสุดยอดดำเนินไปด้วยความสำเร็จแต่ก็ยังเปิดรับการแก้ปัญหาข้อพิพาทกับไทยอยู่ ในทุกแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาสองฝ่ายการเจรจาหลายฝ่าย ในเวทีระดับภูมิภาคหรือระดับนานาชาติ กัมพูชาก็พร้อมเสมอ

ความเห็นของฝั่งกัมพูชา มีขึ้นหลังเกิดความขัดแย้งทางการเมืองมานานหลายวัน หลังจากกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอดีตผู้นำไทยที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ได้เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวันอังคาร ก่อนจะไปบรรยายให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักธุรกิจฟังเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ประเทศไทยไม่พอใจ ที่การร้องขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ได้รับการปฏิเสธจากกัมพูชา ที่กล่าวหาว่า การตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเวลา 2 ปี เป็นเหตุจูงใจทางการเมือง
 
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไทยคนหนึ่ง ได้เรียกร้องให้กองทัพไทย ระงับการอำนวยความสะดวกด้านระบบสาธารณสุขแก่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาและครอบครัวที่ไม่เคยต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และเป็นการปฏิบัติที่ดำเนินมานานหลายสิบปีแล้ว

ขณะที่หลังจากเสร็จการประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะของไทย กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกันในระดับอาเซียน

ด้านนายเชียง วันนาฤทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันความร่วมมือและสันติภาพของกัมพูชา กล่าวว่า อาเซียนเป็นเพียงสถาบันแห่งเดียวในภูมิภาค ที่สามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างสองชาติได้ เนื่องจากการเจรจาสองฝ่าย หรือการเจรจาอื่น ไม่อาจบรรลุผลเขาคิดว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่งรับฟังอาเซียน

ด้านแอนดรูว์  วอล์คเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ในกรุงแคนเบอร์ร่า ให้ความเห็นว่า ในประเด็นความขัดแย้งทั่วไปผู้ไกล่เกลี่ยอย่างอาเซียน อาจช่วยให้ทั้งไทยและกัมพูชาไม่ต้องเสียหน้า แต่สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นสถานการณ์ที่แข็งขืนต่อการไกล่เกลี่ยจากภายนอก เพราะเป็นความขัดแย้งที่ซับซ้อนเกี่ยวกับขั้วการเมืองในประเทศไทย ที่ถูกกระตุ้นด้วยข้อพิพาท
ระหว่างสองชาติ

คิสฮอร์ มาห์บูบานี่ อธิการบดีของสถาบัน ลีกวนยู สคูล ออฟ พับลิค ดิพโพลเมซี่ ระบุว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวของสหภาพยุโรป ไม่ใช่แค่เพียงป้องกันไม่ให้เกิดสงครามระหว่างประเทศสมาชิกเท่านั้น แต่ยังยับยั้งสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ส่วนอาเซียนยังไม่ได้ยับยั้งสงครามที่อาจเกิดขึ้นระหว่างประเทศสมาชิก แต่ความเป็นไปได้ยังคงมีอยู่