ปธ.แก้ปัญหามาบตาพุดฟิตประชุมหาข้อยุติ เน้น เท่าเทียม สมยอม ขจัดระบบอุปถัมภ์

ปธ.แก้ปัญหามาบตาพุดฟิตประชุมหาข้อยุติ เน้น "เท่าเทียม สมยอม" ขจัดระบบอุปถัมภ์

"อานันท์" ปธ.แก้ปัญหามาบตาพุดประชุมหาข้อยุติเน้นประนีประนอม สมยอมขจัดระบบอุปถัมภ์ แก้ปัญหาอย่างเท่าเทียม ประชุมสัปดาห์ละ 2วัน "กอร์ปศักดิ์" เตรียมเสนอของบ 2 พันล้านเยียวยาคนในพื้นที่

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย แก้ปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ 2550 มีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยคณะกรรมการมีหน้าที่ในศึกษาความคิดเห็นและความต้องการของประชาชน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงประสานแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย สังคม เศรษฐกิจ และการลงทุน ให้ได้ข้อยุติและนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาในเขตควบคุมมลพิษพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงจัดทำข้อยุติเพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับ 76 โครงการที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ระงับชั่วคราว ให้เป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน และเพื่อให้ชุมชนและอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณปี 2553 ในส่วนของงบฯกลางกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เยียวยาประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทั้งการออกประกาศให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ การจัดสร้างระบบรักษาพยาบาล ระบบบำบัดขยะ ระบบน้ำประปา รวมถึงการติดตั้งเครื่องตรวจวัดมลพิษในอากาศ คาดว่ามาตรการทั้งหมดจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นไป ล่าสุดได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งไปจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินอย่างละเอียดเพื่อนำเสนอให้ ครม.พิจารณาแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการเยียวยาปัญหานิคมมาบตาพุด วงเงิน 2,000 ล้านบาท แยกเป็น งานในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการเร่งจัดสร้างโรงพยาบาลขนาด 200 เตียง พร้อมจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อสามารถดูแลผู้ได้รับผลกระทบได้ทันทีหากเกิดปัญหาเร่งด่วน ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ต้องเร่งหารือร่วมกับพื้นที่และชุมชนเพื่อกำหนดเขตการวางท่อส่งน้ำประปาเพื่อจ่ายน้ำมายังพื้นที่ชุมชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีงานเรื่องการบำบัดขยะที่มีมากกว่า 3 แสนตัน จะใช้งบฯกว่า 200 ล้านบาท เบื้องต้น ครม.ได้เห็นชอบให้จัดสรรเงินจากโครงการไทยเข้มแข็งในส่วนที่เหลือจากการปิดหีบงบฯ 1.5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาดำเนินงานต่อไป รวมทั้งยังมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดมลพิษของกรมควบคุมมลพิษอีก 10 สถานี ที่ต้องเร่งหารือกับชุมชนว่าต้องการให้ติดตั้งในบริเวณใดบ้าง ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้เร่งดำเนินการที่จะออกประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอานันท์ได้ประชุมคณะกรรมการครั้งแรกที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคารสำนักงานบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) โดยไม่เปิดให้ผู้สื่อข่าวร่วมสังเกตการณ์ และภายหลังการประชุม นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ในฐานะกรรมการฝ่ายตัวแทนภาคเอกชน กล่าวว่า นายอานันท์ได้เชิญตัวแทนในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาชน และผู้ประกอบการเอกชน หารือกันนอกรอบ แต่ยังไม่มีการลงลึกในรายละเอียด เป็นเพียงทำความรู้จักแนวทางการทำงานของแต่ละคน และนายอานันท์ยังได้ขอความร่วมมือให้กรรมการทุกคนมาร่วมประชุมพร้อมเพรียงกันทุกครั้ง โดยจะกำหนดการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน

"การที่รัฐบาลแต่ตั้งคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในมาบตาพุด เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม และน่าจะถึงเวลาที่การแก้ไขปัญหาในลักษณะประนีประนอม สมยอม หรืออุปถัมภ์ฝ่ายใดผ่ายหนึ่งควรจะหมดไปแล้ว"  นายสุทธิกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่เป็นตัวแทนภาคประชาชน ได้แก่ นายชูชัย ศุภวงศ์ นางเรณู เวชรัชต์พิมล นายสุทธิ อัชฌาศัย และนายหาญณรงค์ เยาวเลิศ, ภาครัฐ ได้แก่ นายกอร์ปศักดิ์, นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัด ทส, นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ., และนายโกศล ใจรังษี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ นายสุทิน อยู่สุข น.ส.สมฤดี นิโครวัฒนยิ่งยง และนายสมรัตน์ ยินดีพิธ ส่วนภาคผู้ประกอบการ ได้แก่ นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, นายมหาบีร์ โกเดอร์ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย (HASLA) และนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)