นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือน ต.ค. 52 จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,242 คน ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.อยู่ที่ 75.4 ลดจาก 75.6 ในเดือน ก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปัจจุบันอยู่ที่ 63.3 ลดจาก 64.3 โดยทั้ง 2 รายการเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 68.0 ลดจาก 68.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 66.9 ลดจาก 67.3 ซึ่งทั้ง 2 รายการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนเช่นกัน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ความเชื่อมั่นลดลงมาจากความกังวลภาวะค่าครองชีพสูงและราคาสินค้าแพง รวมถึงการชะลอโครงการการลงทุน 76 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และความไม่แน่นอนทางการเมือง
ซึ่งล้วนแต่บั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภค "การลดลงของดัชนี ต.ค. ครั้งแรกรอบ 5 เดือน ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพราะมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ที่เคลื่อนไหวสวนทางอย่างหลากหลายและขัดแย้งทั้งปัญหาราคาน้ำมัน ค่าครองชีพ มาบตาพุดและการเมือง จนทำให้ภาพความเชื่อมั่นในปัจจุบัน ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม และการจ้างงานลดลง รวมถึงความเชื่อมั่นในอนาคตก็มีอัตราเพิ่มที่ชะลอตัว"
อย่างไรก็ตาม ดัชนีผู้บริโภคเดือน พ.ย. ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ และเป็นตัวชี้วัดว่าดัชนีในอนาคตจะเป็นอย่างไร
เพราะมีปัจจัยสำคัญหลายเรื่องที่จะกระทบทั้งการแก้ปัญหาโครงการลงทุนในมาบตาพุด รวมถึงปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่จะส่งผลต่อการดัชนีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน และการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน การเมือง รวมถึงการใช้งบ กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐว่าจะได้ผลเพียงใด "ส่วนปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชานั้น หากยังไม่มีการปิดด่านเชื่อว่าการค้าตามแนวชายแดนยังดำเนินได้ ปกติและไม่น่าจะได้รับผลกระทบ ส่วนการกักตุนซื้อสินค้าตามชายแดน การลดระยะเวลาการให้เครดิตในการซื้อขายสินค้าและการใช้เงินสดซื้อขายสินค้านั้น น่าจะส่งผลในช่วงสั้นเท่านั้น".
มาร์ค สิ้นมนต์ดัชนีความเชื่อมั่นวูบ!
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!