ทักษิณเตรียมบุก เชื้อทรราชแทรกซึม

เริ่มแทรกซึมเข้ามาในกระบวนการปฎิรูปการปกครอง อธิการบดีมหาลัยช็อกเจอ พล.ต.อ ดรุณ พชร ร่วมทีมงาน มีชัย ประธานยกร่างรธน. แถม วิษณุ บวรศักดิ์ อดีตเนติบริกรแม้ว โผล่ หวั่นดึงมาร่วมกันครอบงำปฏิรูปฯ ตีกันลุยยึดทรัพย์เหล่าโคตรโกง เปิดประตูให้เชื้อชั่ว ทรราชเจริญเติบโตกลับมาใหม่ ขณะที่คณะปฎิรูปฯเหลือเวลาไม่มากเพียงเพียงแค่ 11 วัน

กระบวนการปฎิรูปการปกครองโดย คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เพียงเริ่มต้นก็เผชิญปัญหาท้าทายสำคัญที่จะวัดความสำเร็จหรือล้มเหลวได้

เพราะนอกจากเวลาที่ไม่มากแล้วตามที่ พล.อ.สนธิ บุญยกลิน หัวหน้าคณะปฎิรูปประกาศจะอยู่ในอำนาจไม่เกิน 2 สัปดาห์ ยังมีกลุ่มบุคคลจากระบอบทักษิณเคลื่อนไหวแทรกซึมเข้ามา

แหล่งข่าวจากอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวร่วมกับนายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานวุฒิสภาที่ได้รับแต่งตั้งจากคปค.วานนี้(21ก.ย.) เปิดเผยว่า

รู้สึกตกใจหลังได้เข้าร่วมหารือกับนายมีชัยแล้วพบว่ามี พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. และ นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดอยู่ด้วยในฐานะทีมงานของนายมีชัย

ทั้งสองคนนี้ พล.ต.อ.ดรุณ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. คือคนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการให้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ขณะที่ นายพชร ได้ถูกผลักดันให้เข้ามาเป็นอัยการสูงสุดท่ามกลางข้อครหาเพื่อมาดูแลและปกป้องรัฐบาลทักษิณ

การเจอคนทั้งสองอยู่ในทีมคุณมีชัย ทำให้เราเกรงว่า คนของระบอบทักษิณจะคืบคลานเข้ามามีอิทธพลทางความคิดต่อคณะปฎิรูปฯ ซึ่งอาจไม่รู้ตัว การปฎิรูปก็จะไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวัง แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากพล.ต.อ.ดรุณ และ นายพชร แล้ววานนี้(21ก.ย.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรัฐบาลทักษิณ ได้เดินทางเข้าพบกับ คปค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังจากเดินทางกลับจากประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้นายวิษณุได้เดินทางเข้าไปพบกับคณะปฏิรูปการปกครองแล้ว

ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า

นายวิษณุและนายบวรศักดิ์ ซึ่งเมื่อครั้งรับใช้ระบอบทักษิณได้ชื่อว่าเป็นเนติบริกรประจำคณะรัฐบาลทักษิณถูกเชิญจากคปค.ให้เข้ามาร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า

นายมีชัย เป็นผู้เสนอต่อคปค. ให้ดึงนายวิษณุ และ นายบวรศักดิ์ มาเข้าร่วมเพราะเชื่อในฝีมือของบุคคลทั้งสองและอาจจะมีบุคคลอื่นๆที่เคยทำงานรับใช้ให้กับระบอบทักษิณคนอื่นสมทบเข้ามาอีก

นายมีชัย ขณะนี้ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดต่อคปค.สูงมาก

ซึ่งผู้สังเกตการณ์ที่เชี่ยวชาญการเมืองสูงหลายคนวิเคราะห์ว่า นายมีชัย ซึ่งที่ผ่านมาบทบาทไม่ชัดเจนว่าเอื้อกูลระบอบทักษิณด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะการเป็นผู้ร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษให้กับรัฐบาลทักษิณ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการยกทรัพย์สมบัติชาติให้กับต่างชาติ

กระทั่งกระแสข่าวที่แพร่สะพัดไปตามแหล่งต่างๆโดยเฉพาะห้องค้าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯวานนี้ว่า คปค.จะเสนอชื่อ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มาจากแนวคิดของนายมีชัย เพราะ นายมีชัยกับนายอักขราทรมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคยร่วมงานกันในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาด้วยกัน

ว่ากันว่า หากนายอักขราทร รับตำแหน่งนายกฯ ตัวนายมีชัยเอง ก็อาจจะรับตำแหน่งรองนายกฯ

ซึ่งเมื่อคปค.ลงจากอำนาจไปแล้วเขาก็จะมามีอิทธิพลต่อการบริหารประเทศแทน นายมีชัยที่แม้จะเป็นรองนายกฯแต่ก็จะเป็นนายกฯตัวจริง

ขณะเดียวกันเมื่อคปค.หารือกันถึงแนวทางการยึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรีและครม.ทักษิณ นายมีชัยได้ให้แนวคิดต่อคปค.ให้ใช้วิธีค่อยๆสอบสวน สืบสวน และดำเนินการไปตามขึ้นตอนดีกว่าจะจัดการแบบฉับพลันทันที แต่คปค.ยังไม่ตัดสินใจ เพราะมีข้อสงสัยว่า หากปล่อยเวลาเนิ่นนานไปโอกาสที่คนในระบอบทักษิณที่ยังหลงเหลืออยู่มากในวงราชการก็ดี เป็นผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานอิสระก็ดี ทำลายหลักฐาน บิดเบือนเอกสารต่างๆช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ

ดังนั้นหากวิเคราะห์กันผ่านแนวคิดนายมีชัย การค่อยๆดึงตัวบุคคลในระบอบทักษิณมาร่วมขบวนการ คปค.ซึ่งมีอายุเหลือไม่มากนัก หรือ 11 วันจากนี้ก็จะถูกครอบงำทางความคิดโดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ที่สุดแล้วก็เกรงกันว่า คปค. กำลังเปิดประตูเชื้อเชิญให้ระบอบทักษิณกลับมาเจริญเติบโตได้ใหม่ การยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ ก็จะล้มเหลวสิ้นเชิง

สาเหตุที่กลุ่มบุคคลที่เคยทำงานรับใช้ระบอบทักษิณขยับแทรกตัวเข้ามาคลุกวงในคปค.โดยเร็ว เพราะ คปค.ส่งสัญญานว่าจะเอาจริงกรณีตรวจสอบทุจริตและนำไปสู่การยึดทรัพย์ ของรัฐบาลทักษิณ โดยสนับสนุนคุณหญิงจารุวรรณ เมนฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเต็มที่ ออกประกาศโละบอร์ดตตง.ที่เคยขัดแย้งกรณีสอบการเว้นภาษีให้ตระกูลชินวัตรขายหุ้นให้สิงคโปร์ของกรมสรรพากรเมื่อวันก่อนนี้ ขณะเดียวกันการเรียกนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้าหารือพร้อมด้วย

ของคปค.ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่พอใจต่อบทบาทของคปค.อย่างมาก เพราะองค์กรอิสระที่เป็นกลไกตรวจสอบที่ผ่านมาถูกรัฐบาลทักษิณ ครอบงำไปหมดสิ้น ทั้งๆที่ ป.ป.ช. ถือเป็นองค์กรสำคัญในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน มีคดีการสอบสวนเรื่องทุจริตที่ค้างอยู่จำนวนมากและมีคดีสำคัญ ๆ หลายคดี ขณะที่สตง.ก็มีคดีสำคัญๆรอให้สะสางจำนวนมากเช่นกัน

เพื่อยับยั้งไม่ให้ทั้งสองหน่วยงานนี้ทำงานได้สะดวก หรือ อย่างเลวร้ายที่สุดถือถ่วงเวลาไว้จนกว่า คปค.จะพ้นจากอำนาจลงไป ซึ่งล่าสุดมีการดำเนินการกันบ้างแล้วเช่น ให้ข้อมูลต่อคปค.ต่อต้านเพื่อกันนายกล้าณรงค์ออกไปจากความคิดที่จะดึงเข้ามาช่วยงานที่ป.ป.ช. เช็คบิลระบอบทักษิณ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: ผู้จัดการออนไลน์ ( manager.co.th )