ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษ (ผบ.นศส.) และคณะเข้าพบ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่ว โมง เบื้องต้นมีรายงานว่า เป็นการหารือกันเกี่ยวกับการไปศึกษาดูงานตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ
จากนั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวถึงกรณีวานนี้ (10 พ.ย.) รมว.กลาโหม และ ผบ.ส.ส.เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลและมอบนโยบายการรักษาอธิปไตยบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาโดยเฉพาะด้านเขาพระวิหาร ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ ว่า รมว.กลาโหม และ ผบ.สส.ไม่ได้ห่วงอะไร เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบโดยทั่วไปอยู่ในสภาพปกติ แต่เน้นย้ำนโยบายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ส่วนในระดับพื้นที่ให้รักษาสัมพันธไมตรีเอาไว้ให้มั่นคงและให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงคำถามมีข่าวลือตามด่านชายแดนไทย–กัมพูชาจะการปิดด่านจนประชาชนตกใจต่างกัก ตุนสินค้าว่า รมว.กลาโหมให้นโยบายเรื่องนี้ขอให้คำนึงถึงความผาสุขประชาชนทั้งสองประเทศเป็นหลัก โดย เฉพาะการไปมาหาสู่กันหรือการค้าขายขอให้เป็นไปตามปกติ ดังนั้น นโยบายปิดด่านหรือปิดช่องผ่านแดนต่างๆขณะนี้ ยังไม่มีนโยบาย และยังไม่มีอะไรทำให้น่าวิตกกังวล โดยได้ชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบตามข้อ เท็จจริง เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ในกัมพูชาจะเดินทางไปนครวัด นครธม และอาจจะไปยังปราสาทพระวิหาร การข่าวมีการรายงานอย่างไรบ้าง พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ไม่ได้รับรายงาน แต่เชื่อมั่นว่า อดีตนายกฯ คงไม่ได้มาด้านนี้ และไม่ได้มาทางชายแดน
ถามต่อว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศไทยจริงในด้านที่กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบ ทหารมีอำนาจในการควบคุมตัวหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ต้องปฏิบัติตามที่จะได้รับการประสานจากรัฐบาล แต่ยังเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่เข้ามามีเพียงกระแสข่าว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นถึงอดีตนายกฯ การเข้า-ออกคงจะเข้าอย่างถูกต้อง คงไม่แอบเข้ามา เชื่อว่าไม่มีเรื่องนี้แน่ โดยขณะนี้ ทุกช่องทางมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยตามปกติ