เลื่อนอ่านคดี เกริกเกียรติไปต้นปีหน้า


ศาลอุทธรณ์เลื่อนอ่านคำพิพากษา ในคดีนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ยักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ กว่า 1,600 ล้านบาท ออกไปเป็นวันที่ 26 ม.ค. ปีหน้า เนื่องจากจำเลยบางส่วนหลบหนี และ นายเกริกเกียรติ ป่วยเป็นมะเร็งขั้นลุกลาม

ห้องพิจารณาคดี
  601 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอุธรณ์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นโจทก์ร่วมกับธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือ บีบีซี  ยื่นฟ้อง นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ กับพวกรวม 6 คน ตกเป็นจำเลยฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ของธนาคารมูลค่า 1,657 ล้านบาท  
 
โดยวันนี้จำเลยที่ 1 คือ
นายพิเศษ พานิชสมบัติ เจ้าหน้าที่ประเมินราคาที่ดิน และนายเทอร์รี่ อิสเตอร์  กรรมการบริษัทซิตี้เทรดดิ้ง จำเลยที่ ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา  ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง คาดว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงสั่งออกหมายจับบุคคลทั้ง 2 ในขณะที่นายเกริกเกียรติ จำเลยที่ ยื่นคำร้องต่อศาลว่า กำลังป่วยเป็นมะเร็งในขั้นลุกลาม จำเป็นต้องเข้าฉีดกัมมันตภาพรังสีในต้นเดือน ธ.ค.นี้ และการฉีดดังกล่าวมีอันตรายต่อเด็ก สตรี และคนชรา ที่อยู่ใกล้เคียงเป็นระยะ 2 เดือน จึงขอเลื่อนอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ไปปลายเดือน ม.ค.ปีหน้า  
 
ศาลพิเคราะห์เห็นว่าจำเลยที่ 1 และ มีพฤติกรรมหลบหนีทำให้ไม่สามารถอ่านคำพิพากษาได้ จึงเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ออกไปเป็นวันที่ 26 ม.ค. ปีหน้า เวลา 09.30 น.  นอกจากนี้คดีดังกล่าวก่อนหน้านี้อัยการได้ทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อทางการแคนาดา นำตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษาของนายเกริกเกรียติ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเดียวกัน กลับมาดำเนินคดีในไทยได้สำเร็จ แต่คดีของนายราเกซ  อยู่ขั้นตอนของอัยการ
 
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2538 โดยนายเกริกเกียรติ ได้อนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทซิตี้เทรดดิ้ง เกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายเกริกเกียรติเป็นเวลา 10 ปี ปรับเป็นเงิน 2,264 ล้านบาท และปรับบริษัทซิตี้เทรดดิ้ง จำเลยที่ 3 เป็นเงิน 1 ล้านบาท 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์