แม้ว ดิ้นหาพวก จ่ายเงินชดเชยญาติ 14 ตุลา - ลั่นพร้อมสู้ตาย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 15:34 น.

ทักษิณ กอดกติกา อ้างมาตามประชาธิปไตย ลั่นพร้อมสู้ตาย ซัด ฝ่ายค้าน-พันธมิตรกู้ชาติ เล่นนอกกติการับไม่ได้ ด้านญาติวีรชน 14 ตุลา เฮตบเท้าขอบคุณหลัง ครม.อนุมัติเงินชดเชยเงินกว่า 70 ล้านบาท หนุนสู้-ทำงานต่อ ซัดคนเดือนตุลาฝ่ายซ้ายเลิกไล่รัฐบาล

วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ตัวแทนญาติวีรชน 14 ตุลา ประมาณ 10 คน นำโดยนายณิปไธย ศาสนนันท์ วัย 64 ปี รักษาการประธานคณะกรรมการญาติวีรชน 14 ตุลา ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินชดเชยให้กับผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและทุพพลภาพ สติฟั่นเฟือน ผู้ประสบเหตุการณ์ 14 ตุลา พร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีทำงานต่อไป โดยปราศจากอุปสรรค์ภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ ได้มีรัฐมนตรีคนเดือนตุลามาให้การต้อนรับประกอบด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรับมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอดิศร เพียงเกษ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า กลุ่ม 14 ตุลา เป็นบุคคลกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากทางราชการ ที่ผ่านมาไม่รู้จะทำอย่างไรก็ให้มูลนิธิเข้าช่วยเหลือ ผลสุดท้ายได้เงินเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับการต่อสู้ที่ได้มาเพื่อประชาธิปไตย ฉะนั้น ตนในฐานะที่มาจากประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้งเลยกลับมาคำนึงว่าผู้ที่ต่อสู้จนได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างน้อยๆ ควรได้รับการดูแลและเข้าใจจากภาครัฐที่มาจากประชาธิปไตย สิ่งที่ตนต่อสู้ทุกวันนี้คือการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่พวกวีรชนทั้งหลายต้องเสียชีวิต ต้องทุพพลภาพ ได้ต่อสู้กันมา จู่ๆ จะมีคนกลุ่มหนึ่งและพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งพยายามเคลื่อนไหวแบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงนี้ตนรับไม่ได้ เราต้องรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตย ตนพร้อมจะรักษาประชาธิปไตยไว้ด้วยชีวิต การทำหน้าที่ตรงนี้เป็นสัญลักษณ์ว่าเราทุกคนรักแลหวงแหนประชาธิปไตย เคารพอำนาจประชาชน ตรงนี้เป็นหัวใจของประชาธิปไตย ไม่ใช่ไปคิดว่าเราจะสรุปแทนประชาชน การที่รัฐบาลอนุมัติในส่วนนี้เพราะต้องการให้รู้ว่าภาครัฐที่มาจากระบอบประชาธิปไตยคิดถึงบุญคุณของผู้ซึ่งเรียกร้องให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ยืนยันจะรีบให้มีการเบิกจ่ายเร็วที่สุด

ด้าน นายณิปไธย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนพยายามจะให้คณะกรรมการญาติวีรชนไปร่วมกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ขอชี้แจงว่าญาติวีรชนและวีรชนทุกคนมีตราชั่งในดวงใจ เราชั่งน้ำหนักแล้วว่ารัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาจากผลพวงของการต่อสู้ทั้ง 3 เหตุการณ์และถูกกลั่นกรองเป็นรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 พ.ต.ท.ทักษิณ มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เมื่อเกิดวิกฤตทางสภาฯ ก็เป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ เช่น การลาออก การยุบสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเลือกใช้วิธีการยุบสภา แต่ก็เกิดม็อบของฝ่ายต่อต้านออกมาบอกว่าทำไม่ถูกไม่ควร และมีกลุ่มคนพยายามมาขอร้องให้ไปร่วม แต่ตนได้ขอร้องไปว่าตนหยั่งน้ำหนักแล้ว เห็นควรต้องเทน้ำหนักให้กับทางรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและมาอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

การคืนอำนาจให้กับมวลมหาประชาชน ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน แม้แต่ผู้ที่ร่ำรวยหรือยากจนก็มีหนึ่งเสียงเท่ากัน ฉะนั้น คณะกรรมการวีรชน 14 ตุลาขอให้เพื่อนพี่น้องและ 3 พรรคการเมืองมาใช้วิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ โดยส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งและกราบขอร้องเพื่อนพ้องคนเดือยตุลาที่หันไปเชียร์อีกฝ่าย ผมต้องขอประทานอภัยพวกท่านที่คณะกรรมการญาติวีรชนต้องเดินทางสายนี้ เพราะไม่มีทางหลีกเลี่ยง จึงกราบขอร้องนายสุริยะใส กตะศิลา นายพิภพ ธงไชย นายธีรยุทธ บุญมี ที่พูดไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่เราคอยมา 30 กว่าปีที่เราได้ความช่วยเหลือวันนี้ถือเป็นผลพวงข้อท้าย แต่สิ่งที่สำคัญที่ญาติวีรชนถือเป็นหลักคือเราต้องรักษารัฐธรรมนูญด้วยชีวิต เพราะรัฐธรรมนูญได้มาด้วยชีวิตของคนถึง 3 เหตุการณ์ คือ 6 ตุลา 14 ตุลา และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ถ้ามีอะไรที่จะทำให้เรามาสนับสนุนพรรคไทยรักไทย เราก็ต้องกราบขออภัยด้วย ตัวแทนญาติวีรชน กล่าว

นายณิปไธย กล่าวต่อว่า การลาออกของนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ จากสมาชิกพรรคไทยรักไทยถือ เป็นการสูญเสียของพวกเรา ทั้งนี้ตนจะไปขอจับเข่าคุยกับท่าน แต่ในส่วนที่เสียไปนี้ทางคณะกรรมการญาติวีรชน 14 ตุลาทุกคนจะขอนำมาเสริมแทนให้ด้วยความเต็มใจ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรับมนตรีคนเดือนตุลา ก่อนหน้านี้มีอดีตนักการเมืองคนหนึ่งที่น่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ท่านกับดูแคลนพลังพวกเราหาว่าเป็นฝ่ายซ้าย เป็นคอมมิวนิสต์ แต่ต้องขอขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมให้คนเดือนตุลาเข้ามาร่วมรัฐบาลทำงานเพื่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐมนตรี และทุกคนทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงินที่ ครม.มีมติชดเชยให้ญาติวีรชน 14 ตุลา มีทั้งหมด 90 ราย แยกเป็นเงินชดเชยสำหรับผู้เสียชีวิต 43 ราย รายละ 215,900 บาท และเงินชดเชยกรณีผู้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ สติฟั่นเฟือน จำนวน 47 ราย รายละ 1,449,660 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการจ่ายย้อนหลัง 32 ปี

นางละเมียด บุญมาก ภรรยานายจิระ บุญมาก เหยื่อเหตุการณ์ 14 ตุลา กล่าวยอมรับว่า เห็นแก่ตัว แต่การมารับความช่วยเหลือตรงนี้ไม่ได้เลือกข้าง แต่นายกรัฐมนตรี ทักษิณ เป็นเพียงคนเดียวที่ช่วยเหลือครอบครัวตัวเองได้ เพราะกว่า 32 ปีที่ลี้ยงลูกมาโดยลำพังเป็นช่วงเวลาที่คิดว่ามันทรมานมาก แม้เงินเพียงเท่านี้ไม่สามารถชยเชยอะไรได้มาก แต่ก็เป็นเพียงรัฐบาลเดียวที่ช่วยเหลือ ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งกับพันธมิตรกู้ชาติ