วาทะเด็ด! โฆษก ตร.สะกิดใจม็อบ-เขย่ากรมปทุมวัน
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 16:09 น.
ตำรวจไม่ไหวแล้วครับ!! วาทะเด็ด พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ที่กลับกลายเป็นหอกข้างแคร่ ถามถึงจุดยืนกรมปทุมวันอีกครั้ง ต่อการทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์พลังมวชน ที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ทักษิณ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน แม้โฆษก ตร.จะยืนยันว่า เป็นความรู้สึกส่วนตัว แต่สะท้อนให้เห็นถึงการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจ ดุจประหนึ่งพลังบริสุทธิ์เรือนแสน คือ ต้นเหตุของความวุ่นวาย เป็นเหตุให้กำลังพลเหนื่อยล้า วาทะเด็ดนี้จึงถือเป็นการดิสเครดิตคำเยินยอของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เคยมอบให้กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างดียิ่ง ในช่วงก่อนหน้านี้
ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ สังคมเกิดความขัดแย้งแบ่งแยกทางความคิดอย่างชัดเจน ระหว่างฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล ในนามองค์กรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งประกอบไปด้วย ชนชั้นกลาง นักวิชาการ นิสิต นักศึกษาบุคลากรจากหลากหลายอาชีพ กับฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลระดับรากหญ้า ซึ่งส่วนถูกเกณฑ์มาจากต่างจังหวัด
การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลขับไล่ ทักษิณ-ออกไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4, 11, 26 ก.พ.และวันที่ 5 -6 มี.ค.ที่ผ่านมา มีจุดยืนร่วมกัน และเห็นว่า ทักษิณ ไร้ซึ่งจริยธรรม และหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาในขณะนี้ คือ ทักษิณ ต้องลาออกไปเท่านั้น
พลังมวลชนเรือนแสนที่ชุมนุมกันอย่างกันสงบ แม้จะมีการเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือทำเนียบรัฐบาล แต่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสันติไม่มีการทำลายทรัพย์สินราชการหรือเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ถือนิมิตหมายที่ดีในการชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำ เกือบ 14 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 35
การประกาศเจตนารมณ์ของแกนนำองค์กรพันธมิตรประชาชนฯ กลางท้องสนามหลวง ที่จะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 14 มี.ค.โดยยึดหลักอหิงสา เพื่อกดดันให้ทักษิณลาออก ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ หากทุกฝ่ายเคารพกติกา ทำหน้าที่ของตัวเอง ภายในของเขตของกฎหมาย แม้จะยืดเยื้อยาวนานหรือเหน็ดเหนื่อยเพียงใด เชื่อว่า ปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างสันติวิธี โดยไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อ
กว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่การชุมนุมที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า - สนามหลวง สำนักตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำรวจของประชาชน เพราะทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และแสดงความเป็นมิตรกับกลุ่มผู้ชุมนุม
จนกระทั่ง พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษก ตร.เปิดแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) โดยยกพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2535 เมื่อทรงยุติความขัดแย้งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ขึ้นมาประกอบพร้อมเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าเข้าหากันนึกถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยยกคำกล่าวของทั้ง 2 ฝ่าย ว่า ไม่ไหวแล้วโว้ย แต่ตำรวจอยากบอกเช่นกันว่า ตำรวจไม่ไหวแล้วครับ บ้านเมืองในขณะนี้ไม่มีข้อยุติ ไม่มีการพบกันครึ่งทาง ไม่มีใครถอย ตร.เกือบหมื่นชีวิต ที่อดตาหลับขับตานอน วันแล้ววันเล่าสำหรับผู้ชุมนุมสามารถปักหลักยืดเยื้อ เพราะสลับสับเปลี่ยนกันไปพักผ่อนได้ แต่สำหรับตำรวจไม่สามารถพักผ่อนได้
ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ จึงขอตั้งธงหวังคลายข้อสงสัยดังนี้ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ เปิดแถลงการณ์แม้จะในนามส่วนตัว แต่เมื่อสวมหัวโขนโฆษก ตร.ย่อมปฏิเสธตัวแทนองค์กรไม่ได้ ...การยกพระบรมราโชวาทฯ ปี 2535 ขึ้นมาเปรียบเปรย วิเคราะห์สถานการณ์ดีแล้วหรือว่าความขัดแย้งในวันนี้ จะจบลงอย่างเช่นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ทั้งที่การชุมนุมเป็นไปอย่างสันติวิธี
ถามว่า...ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน ใช่หรือไม่ ข้ออ้างที่บอกว่าเหน็ดเหนื่อย โดยที่ยังกินภาษีประชาชน สมควรแล้วหรือ?
เพราะพลังประชาชน... ที่ออกมาชุมนุม ต่างออกมานอนกลางดินกินกลางทราย เพื่อร่วมขับไล่ทักษิณ ถือเป็นพลังบริสุทธิ์ ที่อยู่ภายใต้กรอบของ กม.หาใช่เป็นการชุมนุมเพื่อก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่อย่างใด
การกล่าวตำหนิสื่อมวลชน สื่อทุกประเภท รวมทั้งสำนักโพลต่างๆ ให้หยุดการนำเสนอการแสดงความเห็นในเชิงขัดแย้ง ถือเป็นการละเมิดสิทธิรับรู้ข่าวสารใช่หรือไม่?
หรือลืมไปแล้วว่า ประเด็นหลักที่ประชาชนเรือนแสนออกมาชุมนุนกันในวันนี้ เพราะถูกรัฐบาลนี้สั่งปิดหูปิดตาประชาชน ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานและขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ท่ามกลางความร้อนระอุทางการเมือง ตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ควรจะยึดทางสายกลางและยืนเคียงข้างประชาชน อย่าทำให้พลังบริสุทธิ์นับแสนคนที่ชุมนุมกันอย่างสันติวิธีในยามนี้ คิดว่าตำรวจรับใช้นักการเมือง ยึดติดกับยศฐาบรรดาศักดิ์ อันจะพลิกผันกลายเป็น น้ำผึ้งหยดเดียว ก่อให้เกิดความระแวงต่อผู้ถือกฎหมาย อย่างเมื่อครั้งในอดีต
ทีมข่าวอาชญากรรม ขอทิ้งท้ายด้วยคำให้สัมภาณ์ของโฆษก ตร.เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้สรุปกันเองว่ามีนัยอย่างไร ขอให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สำเหนียกไว้ด้วยว่า เคยไปเข้าเฝ้าฯ ต่อหน้าพระพักตร์ และในหลวงได้พระราชทานพระบรมราโชวาท ขณะที่รัฐบาลเองก็ควรต้องฟังด้วย ให้ช่วย ๆ กัน ขอความกรุณาสื่อให้พาดหัวพระบรมราโชวาท ข้างต้น เชื่อว่า หากใครได้อ่านก็คงต้องหยุดคิด ผมมั่นใจว่า หากไปรวมกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเผชิญหน้าคงจะมีจำนวนมากกว่าทั้งสองกลุ่มที่กำลังทะเลาะอยู่ หากไม่ยอมหยุดกันจะให้ผมถอดเครื่องแบบออกมาเรียกร้องก็ได้ นายกฯทักษิณ ก็น้องผม รุ่นของท่านเป็นลูกศิษย์ผมสอนมาทั้งรุ่น คุณสนธิ ก็เพื่อน ท่านจำลอง ก็เป็นพี่ที่เคารพ แม้แต่คุณอภิสิทธิ์เองซึ่งจบจากอังกฤษ มีหัวประชาธิปไตย เวลานี้ขอให้เห็นบ้านเมืองก่อนพรรคการเมือง
ส่วนแถลงการณ์ฉบับที่ 2 (7 มี.ค.) ระบุว่า ได้พูดในนามส่วนตัว ที่ผ่านมา ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อ 10 วันที่ผ่านมาได้ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ว่าขณะนี้ หลายฝ่ายที่ชุมนุมกันขอให้นายกฯ ลาออก ในขณะที่นายกฯ ก็ไม่ยอมลาออกเพื่อต้องการรักษากติกา โดยถ้อยคำในจดหมาย ระบุว่า อยากให้นายกฯ ประกาศไม่รับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งหากพรรคไทยรักไทยชนะ และให้สรรหาบุคคลที่เหมาะสม แต่ฝ่ายค้านต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นการถอยคนละก้าว หากประชาชนตัดสินให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคชาติไทยชนะการเลือกตั้งก็ไม่มีปัญหา
การออกมาเคลื่อนไหวท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ของ ผช.ผบ.ตร.อชิรวิทย์ ครั้งนี้ ถือว่าหมิ่นเหม่และไม่แน่ใจว่าจุดยืนของ ตร.วันนี้ยืนเคียงข้างใคร? เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความฝักใฝ่ทางการเมือง แม้จะยืนยันว่าเป็นการแสดงความรู้สึกส่วนตัว แต่ในฐานะที่นั่งในตำแหน่งโฆษกฯ และเป็นข้าราชการประจำ ซึ่งมีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ สมควรแล้วหรือที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นเช่นนั้น... กรมปทุมวันจึงสะเทือนเลื่อนลั่นอีกครั้ง กับอาการกระฟัดกระเฟียด ของโฆษก ตร.นาม อชิรวิทย์
ประวัติ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช
2511 สำเร็จการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม รุ่นที่ 21
( นรต.21 )
2513 สำเร็จการศึกษาจากศูนย์ฝึกการบินพลเรือน แห่งประเทศไทย หลักสูตร นักบินพาณิชย์
2515 สำเร็จการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ หลักสูตร ปริญญาโททางรัฐประศาสนศาสตร์
คุณวุฒิเพิ่มเติม
- ฝ่ายอำนวยการตำรวจ ชุดที่ 9 ร.ร.เสนาธิการทหารบก
- บริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 11 สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ
- F.B.I. National Academy เมือง Quantico มลรัฐ Virginia ประเทศสหรัฐอเมริกา
- Senior Command Course ที่ The Police Staff College ประเทศอังกฤษ
- วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 9
การรับราชการ
- 2511 รองวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
- 2512 รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง
- 2513 นักบินประจำแผนก 5 กองกำกับการ 2 กองบังคับการกองบินตำรวจ
- 2516 อาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
- 2520 สารวัตรปกครองป้องกัน สถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
- 2523 อาจารย์ภาคปฏิบัติวิชาการตำรวจ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
- 2524 รองผู้กำกับการ 2 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
- 2525 รองผู้กำกับการตำรวจภูธร จังหวัดมุกดาหาร
- 2526 รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร 6
- 2529 ผู้กำกับการอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธร 4
- 2530 ผู้กำกับการตำรวจภูธร จังหวัดกาฬสินธุ์
- 2531 รองผู้บังคับการ (ทำหน้าที่หัวหน้าตำรวจจังหวัด) จังหวัดกาฬสินธุ์
- 2533 รองผู้บังคับการตำรวจภูธร 6
- 2535 ผู้บังคับการสถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ
- 2537 ผู้ช่วยผู้บัญชาการ กองบัญชาการศึกษา
- 2539 รองผู้บัญชาการสำนักงานแผนงานและงบประมาณ
- 2540 รองจเรตำรวจ
- 2541 ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- 2545 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
- 2548 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ