เอาหละ เมื่อเข้าใจกันเช่นนี้แล้วผมจะบอกให้คุณทราบเรื่องราวหลายเรื่องซึ่งคุณจะไม่มีวันได้รับรายงานจากลูกน้องของคุณ
เรื่องที่หนึ่ง เป็นข่าวร้ายของคุณและพรรคพวก เพราะศาลอาญาได้ตัดสินคดีอดีตสามกกต.เป็นคดีที่สอง ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยคำพิพากษาฉบับนี้จะมีผลทำให้กกต.ชุดใหม่ต้องดำเนินคดีอาญากับคุณและพรรคพวกของคุณ และมีผลต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคของคุณด้วย เพราะถ้ากกต.ชุดใหม่ไม่ทำอะไรกับคุณและพวกอีก พวกเขาก็อาจต้องติดคุกแทนเช่นเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วง
ผมเชื่อว่ากิจกรรมแรก ๆ ของกกต.ชุดใหม่คือการดำเนินคดีอาญากับผู้ทำความผิดฐานจ้างพรรคเล็กให้โกงเลือกตั้ง
เรื่องที่สอง ที่พวกคุณออกข่าวว่าคุณจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 กันยายน ศกนี้นั้นไม่มีคนเชื่อ เพราะการสั่งการให้การบินไทยจัดเครื่องบินลำใหญ่ที่สุด ใหม่ที่สุดที่สำรองไว้สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ใช้สอย ให้ไปรับคุณจากลอนดอนไปเม็กซิโก คิวบา และสหรัฐนั้น มีข่าวหลุดออกมาภายนอกว่ามันจะบินกลับมาเมืองไทยในคืนวันที่ 20 กันยายน ศกนี้
ซึ่งสอดคล้องกับการขยับกำลังของพรรคพวกคุณบางกลุ่ม แต่ไม่สามารถหลุดรอดสายตาทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โดยเด็ดขาด
ใครก็ตามที่คิดว่าจะฉวยโอกาสเข้าถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและยึดอำนาจเพื่อทำให้อำนาจทรราชสืบทอดต่อไปนั้นไม่มีทางสำเร็จแน่นอน
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงจำเป็นต้องเลื่อนการจัดชุมนุมใหญ่จากวันที่ 22 กันยายน 2549 มาเป็นวันที่ 20 กันยายน 2549 เพื่อถวายความจงรักภักดี และเพื่อไม่ให้มีใครคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทั้งจะสนับสนุนทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการปกป้องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและราชบัลลังก์จนถึงที่สุด
เรื่องที่สาม เป็นข่าวร้ายสำหรับคุณอีกเช่นเดียวกัน เพราะในขณะที่ลิ่วล้อของคุณกำลังหาทางถ่วงเวลาเพิกถอนสัมปทานดาวเทียมไทยคม เพิกถอนสัมปทานสายการบินแอร์เอเชีย และเพิกถอนสัมปทานเอไอเอส เพราะมีการถือหุ้นแทนคนต่างด้าวนั้น
มีเหตุการณ์สองเรื่องที่จะส่งผลให้ทรัพย์สมบัติของชาติทั้งสามเรื่องดังกล่าวได้กลับคืนแผ่นดิน คือ
(ก) คำตัดสินของศาลอาญาในคดีสามหนาห้าห่วงล่าสุดจะเป็นต้วอย่างให้กับการเตะถ่วงไม่ดำเนินการเพิกถอนสัมปทานดังกล่าวด้วย ทำให้นายสมคิด นายปรีชา นายยรรยง และพรรคพวกใกล้ประตูคุกเช่นเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วง และจะทำให้ข้าราชการไม่ร่วมมือโกงชาติอีกต่อไป
(ข) จู่ ๆ นายจิมมี่ฟุน กรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการลงทุนของเทมาเส็กได้เปิดห้องประชุมชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2549 เวลา 21.45 น. และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ตอนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ในปัญหาการถือหุ้นแทน เขาระบุว่า
เมื่อการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปปิดลง เงินทั้งหมด 73,000 ล้านบาท ได้จ่ายให้กับครอบครัว พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และไม่มีการจ่ายต่ออีก ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ปิดการซื้อขาย เราจ่ายเงินในประเทศไทยให้เต็มทั้งหมด
นี่คือหลักฐานยืนยันจากเทมาเส็กว่าครอบครัวของคุณคือผู้ขายหุ้นที่แท้จริง และเทมาเส็กคือผู้ซื้อที่แท้จริง ไม่ใช่คนไทยหรือบริษัทชื่อไทยที่เป็นแค่นอมินี่เท่านั้น
หลักฐานนี้ชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ผมจึงเชื่อว่าทรัพย์สมบัติของชาติทั้งสามรายการจะถูกคนไทยทวงกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน
เรื่องที่สี่ การที่คุณเปรียบเทียบตัวคุณเองกับพลเอกเปรมนั้นหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ผมเห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เพราะเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงและเห็นได้ชัดเจนที่สุดว่าความแตกต่างระหว่างคนผู้กอบกู้ชาติกับผู้ขายชาตินั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างคนดีซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินกับคนชั่วช้าเลวทรามของแผ่นดินที่ถูกสาปแช่งทั้งสิบทิศนั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างรัฐบุรุษกับทุรชนนั้นเป็นอย่างไร ความแตกต่างระหว่างผู้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับผู้ที่คิดล้มล้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นอย่างไร
ที่ผ่านมาคุณมักระบุว่ากรณีเป็นเรื่องความขัดแย้งของคุณกับผม ซึ่งทำให้สังคมไทยเห็นความจริงไม่ชัดเจน แต่เมื่อคุณเอาตัวเองไปเปรียบกับพลเอกเปรมแล้วทุกอย่างก็ชัดเจน
เรื่องที่ห้า คุณบอกว่าต่างประเทศกำลังคิดเอาอย่างประเทศไทย แต่ที่ผมได้ยินมานั้นเขาหัวเราะกันแบบขำกลิ้งและไม่มีใครคิดเอาอย่าง เพราะเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องอับอายขายหน้าอย่างยิ่งที่ผู้นำคนหนึ่งต้องไปพึ่งพาหมอดูต่างชาติในการบริหารบ้านเมือง
เขารู้สึกชิงชังรังเกียจผู้นำที่โกงภาษีและละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นอาชญากรฆ่าคน ข่มขู่คุกคามปิดกั้นสื่อมวลชน ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากเอาอย่างการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือการขายชาติและการปล้นชาติ ตลอดจนการทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟแบบที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยเลย
ขณะนี้คนไทยรังเกียจเหตุการณ์แบบนี้มาก ผลการทำโพลล่าสุดจึงมีผู้ต้องการให้คุณวางมือถึง 52% นับว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุด
ผมอยากจะบอกคุณด้วยว่าที่ลิ่วล้อของคุณพยายามกุข่าวปฏิวัติบ้าง ปลุกกระแสว่าคุณจะเว้นวรรคหรือวางมือทางการเมืองบ้างนั้น ไม่มีใครเชื่อถือเลย คนไทยเชื่อว่าเป็นลูกไม้ตื้นๆ เพื่อลดกระแสการต่อต้านคุณเท่านั้น มันจึงไม่สามารถลดกระแสโค่นล้มระบอบทักษิณได้เลย
คุณควรจะรู้ซึ้งถึงบาปกรรมได้แล้ว และควรตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองบ้าง คุณไปเสียเถิด อย่ากลับมาเมืองไทยอีกเลย อย่าทำให้คนไทยและประเทศไทยต้องวิบัติย่อยยับยิ่งกว่านี้เลย.
สนธิ ลิ้มทองกุล
แหล่งข่าว ผู้จัดการออนไลน์