เมื่อวันที่ 6 พ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ไทยยังคงเน้นใช้วิธีการทางการทูตตอบโต้กัมพูชา กรณีแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย และรัฐบาลพร้อมลดระดับความสัมพันธ์ลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นอาจปิดด่านตามแนวชายแดน หากกัมพูชายังตอบโต้ไทยอย่างแข็งกร้าว ยืนยันว่า เราได้ตัดสินใจทำทุกอย่าง อย่างพอเหมาะพอดีกับเหตุการณ์ ที่ทำไปเพราะเราจำเป็นต้องทำ ไม่มีอะไรเกินเลย นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวานก่อนเดินทางไปประชุมที่ญี่ปุ่น โดยให้ดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดนสองประเทศ ไม่ให้ตึงเครียด เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเขาก็เห็นว่า การพูดคุยกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ แต่หากกัมพูชายังคงมีท่าทีแข็งกร้าว และตอบโต้ไทยอย่างไม่ประนีประนอม รัฐบาลก็จำเป็นต้องลดระดับความสัมพันธ์ลงเรื่อยๆ จนอาจถึงขั้นปิดด่านตามแนวชายแดนก็ได้ "เรื่องรบกันไม่ยาก แต่รบแล้วมีคนบาดเจ็บล้มตาย ทหาร ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น เราต้องหลีกเลี่ยงสงคราม และพยายามใช้หนทางอื่นในการแก้ปัญหา" นายสุเทพ กล่าว นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความเรียบร้อยบริเวณสถานทูตกัมพูชาในไทยแล้ว ขณะที่หวังว่า สถานทูตไทยในกัมพูชานั้น ทางการกัมพูชาต้องเป็นผู้ดูแล รวมทั้งกล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ไม่ควรนำประเทศชาติ มาเป็นของเล่นในการช่วงชิงอำนาจ และควรบอกกล่าวให้กัมพูชาดูแลคนไทยและสถานทูตไทยในกัมพูชาด้วย นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นพร้อม คณะนายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมประชุม กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง กล่าวภายหลังการเดินทางถึงญี่ปุ่น ถึงลำดับการปฏิบัติทางการทูตที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการอยู่ว่า ช่วงที่ผ่านมานั้น ต่างฝ่ายก็เรียกผู้แทนของตนเองกลับเพื่อทบทวนความสัมพันธ์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่ากระทบต่อจุดยืนที่เรามีอยู่ ซึ่งในทางปฏิบัติก็คือ การปรับลดความสัมพันธ์ทางการทูตมารับทราบนโยบายและแนวทางปฏิบัติก่อน ระยะนี้คงไม่มีอะไรเพิ่มเติม เนื่องจาก ทางกัมพูชาก็คงรอดูท่าทีจากทางการไทยด้วยเช่นกัน นายปณิธาน กล่าวว่า ส่วนการเดินทางมาประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจมีโอกาสพบ สมเด็จฮุนเซน ด้วยนั้น ก็เป็นไปได้ว่า นายกรัฐมนตรี อาจมีช่วงจังหวะที่จะได้หารือกันในเรื่องนี้ แต่คงไม่ใช่การให้ประเทศอาเซียน เข้ามาเป็นตัวกลาง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเที่ยงวันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการที่จะเข้าประชุม และพบกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งรวมถึง สมเด็จฮุนเซน ด้วยเช่นกัน
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ถือเป็นท่าทีปกติที่กัมพูชาจะเรียกทูตกลับเช่นกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปิดทางการเจรจา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย ได้ย้ำแล้วว่า มาตรการใดๆ ก็ตาม ที่จะดำเนินการ ต้องไม่กระทบกับประชาชนตามแนวชายแดน กรณีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ เป็นความขัดแย้งเฉพาะ
เทือกกร้าวเขมรเหิมหนักขู่ปิดชายแดน
จับตามาร์คพบฮุนเซนที่ประชุมประเทศลุ่มน้ำโขงวันนี้