คมชัดลึก :“นพดล” เผย "ทักษิณ"เตรียมวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ประชุมร่วม"ฮุนเซน" เชื่อนายใหญ่ไม่ใช้เขมรกดดันไทย ด้าน“สุเทพ" ชี้ เป็นสิทธิของแต่ละประเทศ ยันแยกแยะได้ มั่นใจไม่กระทบความสัมพันธ์ไทย-เขมร
กล่าวกรณีสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐ มนตรีกัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศ ว่า รัฐบาลกัมพูชามีสิทธิในการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากมองเห็นคุณค่าและศักยภาพ รวมทั้งมีสิทธิที่จะพิจารณาไม่ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ แม้รัฐบาลไทยจะอ้างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเพราะสมเด็จฮุนเซนไม่พอใจการดำเนินการ และไม่ชอบรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชายังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
ดังนั้นการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้แยกแยะความสัมพันธ์ส่วนตัวของสมเด็จฮุนเซน กับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น
รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายกลับไปทบทวนว่าทำไมรัฐบาลกัมพูชาจึงไม่ชอบรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาเสื่อมโทรมลงมากในรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนการทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาฯเบื้องต้นพ.ต.ท.ทักษิณ อาจใช้รูปแบบวิดีโอคอนเฟอรเร้นท์ในการประชุมร่วมสมเด็จฮุนเซน เพื่อร่วมหารือในแก้ปัญหาต่างๆ เนื่องจากยังไม่แผนเดินทางไปกัมพูชาในช่วงนี้ โดยยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ใช้กัมพูชากดดันรัฐบาลแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่พยายามสอบถามท่าทีกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยตอบเพียงว่า “ ให้รอฟังจากนายกฯ”
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ยังไม่ต้องทบทวนท่าทีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
เราต้องแยกแยะระหว่างเรื่องภายในแต่ละประเทศกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะเรื่องภายในแต่ละประเทศรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งใครรับตำแหน่งอะไรอย่างนี้เราเข้าไปแทรกแซงเขาไม่ได้ คนที่เขาแต่งตั้งนั้นเราจะชอบหรือไม่ชอบ ถูกใจเราหรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะไปเอะอะโวยวายกับเขา ส่วนกรณีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหากเรามั่นใจในสัญญาข้อตกลงกรณีส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เราได้ทำความตกลงไว้กับกัมพูชาใช้บังคับได้ ตรวจสอบดีแล้ว และมั่นใจแล้วว่าคนที่หนีคดีไปจากประเทศไทย ไปพำนักเป็นการถาวรที่นั่นเราก็ส่งหนังสือไปตามกระบวนการกฎหมายระหว่างประเทศไป เหมือนที่เคยส่งหนังสือขอตัวนายราเกซมาดำเนินคดี แต่เมื่อทำไปแล้วเขาไม่ให้ค่อยมาพิจารณาว่าเป็นการกระทำผิดตามข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างไรว่ากันไปทีละขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งที่กัมพูชาเองก็รู้เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างนี้ถือเป็นการหักหน้ารัฐบาลไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวติดตลกว่า เราก็อย่ายื่นหน้าให้เขาหัก
เราต้องเก็บหน้าเอาไว้ให้ดี ทำไมเราต้องยื่นไปให้เขาหักไปเฉยๆ เป็นเรื่องของเขาที่เขาจะตั้งใคร ถ้าสมมุติว่ารัฐบาลไทยเกิดจะตั้งนายสม รังษี ขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาอะไรก็ได้แล้วไม่ถูกใจนายฮุนเซนมันก็เรื่องของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องของเขาก็ต้องแยกกัน เราอย่ารวมทุกประเด็นเข้าด้วยกันจากความารู้สึก แต่ต้องแยกแยะเรื่องนั้นให้ดี เมื่อถามว่า เป็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่มองเช่นนั้น เพราะตนแยกแยะได้ แต่ละประเทศมีกฎหมายของตัวเอง เมื่อครั้งขอตัวนายราเกซจากศาลแคนนาดา ก็ต้องสู้กันนานถึง 13 ปี กว่าจะตัวกลับมา ดังนั้นต้องว่ากันตามกฎหมาย เพราะหากไทยชิงโกรธแคนนาดาตั้งแต่ปีโน้นป่านนี้เราคงไม่ได้ตัวนายราเกซกลับมา คงตัดสัมพันธ์ไมตรีไปเรียบร้อย
โวทักษิณวีดีโอฯประชุมร่วมฮุนเซน
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าการกระทำของกัมพูชาครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์ไทย- กัมพูชาด้านอื่น ๆ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ตนแยกเรื่องออกเป็นเรื่องๆ
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาจะดูเป็นกรณี ๆ ไป เช่น ปัญหาเขตแดนก็มีกรรมการร่วมดำเนินการชี้หลักเขต ปัญหากระทบกระทั่งตามแนวชายแดนของทหารก็เจรจากันไป ถ้ามีเรื่องประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่ทางทะเล ก็มานั่งพูดคุยปรึกษากันไปเป็นเรื่องๆ แต่ยืนยันในหลักการว่าไทยต้องอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสันติ แต่ถ้าเขารุกล้ำอธิปไตยของไทยนั่นก็เป็นเรื่องที่เราต้องลุกขึ้นมาปกป้อง
เมื่อถามว่า วันนี้จะสรุปได้หรือยังว่ากัมพูชาไม่ใช่มิตรไทยอย่างแท้จริง เพราะแต่งตั้งนักโทษหนีคดีของไทยเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกฯ
นายสุเทพ กล่าวว่า การคิดเช่นนั้นแสดงว่าใช้อารมณ์เรามาคิดอย่างนั้นไม่ได้ ผลประโยชน์ของชาติจะเอาไปแลกกับความโกรธ ชอบหรือไม่ชอบไม่ได้ เพราะมันไม่สนุกที่จะไปทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเหตุเพียงมีผู้ต้องหาหนีศาลคนหนึ่งเท่านั้น มันไม่คุ้มกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะช่วยทำให้กัมพูชาเข้าใจปัญหาชายแดนได้บ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คาดหวังขนาดนั้น จะยุเสียล่ะไม่แน่ เรื่องที่จะช่วยคงยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ากลัวอยู่เหมือนกันว่าจะเกิดปัญหาชายแดนขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่กลัว
เพราะกัมพูชาคงไม่พร้อมจะมาทะเลาะกับไทย เขาจะชอบ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เขาคงไม่คิดอยากจะมาทะเลาะกับไทย เขาคงไม่อยากทำ เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของกัมพูชาไม่นึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ อย่างที่ตนบอกแล้วว่าต้องแยกแยะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างนายกฯกับนายกฯ
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ชายแดนไทยกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องปรับใด ๆ ยังคงดูแลไม่ให้มีการปะทะกัน ทหารก็ต้องคอยเจรจากันไว้ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นคงไม่ดีสำหรับประเทศเสียบรรยายกาศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอยากฝากบอกอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ฝากพ.ต.ท.ทักษิณ จะทวิตหรือโฟนอินก็ตาม เขาทำโดยมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าต้องการให้ไทยปั่นป่วนเข้าไว้ อย่างนี้ชัดเจน“คุณทักษิณ กับคุณฮุนเซนเขาคบค้ากันมานานแล้ว ผมเพิ่งรู้จักไม่นาน และไม่เคยไบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทสนม เพียงแค่รู้จัก เคยไปมาหาสู่บ้าง พูดคุยกันได้บ้าง แต่ ผมคงไม่ก้าวล่วงไปถึงกับว่า เขาจะคบใครได้ คบใครไม่ได้ นั่นมันไม่ใช่เรื่องของผม ตอนนี้รอว่า เมื่อเรามีหลักฐานชัดว่าคุณทักษิณ ได้เข้าไปตั้งหลักแหล่ง พำนักในกัมพูชาชัดเจนแล้ว ตื่นเช้า 8 โมงไปทำงาน 5 โมงเย็นกลับเข้าที่พัก ถ้ารู้อย่างนี้เราก็ดำเนินกฎหมายระหว่างประเทศตามข้อตกลง โดยทำเรื่องขอให้เขาส่งตัวกลับมา เมื่อนั้นกระทรวงการต่างประเทศกับสำนักงานอัยการสงสุดต้องแสดงท่าที” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลต้องระวังปัญหาที่จะตามมาเหมือนกรณีกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า
พล.อ.ชวลิต กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำงานประสานกันอยู่แล้ว ซึ่งชัดเจนว่าพล.อ.ชวลิตมาทำงานในพรรคเพื่อไทย ก็เพื่อรับใช้พ.ต.ททักษิณ เพราะฉะนั้นเป้าหมายเขาชัดเจน เราต้องแก้ปัญหาของเราไป อย่างไรก็ตามจากการที่พล.อ.ชวลิตจะเดินทางไปประเทศมาเลเซียนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องไปกลัว ต่อสู้ไปตามความเป็นจริง เรื่องภายในของประเทศไทยประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ไม่ว่าทั้ง พล.อ.ชวลิต และพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินสายไปพูดให้ทั่วอย่างไร ก็ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยได้ และรัฐบาลก็ไม่เคยอ่อนไหวต่อเรื่องเหล่านี้เลย ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า อนาคตกัมพูชาจะเป็นภัยคุกคามของไทย เพราะขณะนี้เขามีการเพิ่มงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ คิดว่าเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยได้
ไม่น่ามีปัญหา ตนเชื่อว่าประเทศเพื่อนบ้านของไทยทุกประเทศ ไม่มีใครอยากมีปัญหา เพราะทุกคนอยากอยู่อย่าวสันติกับระเทศเพื่อนบ้านและร่วมมือด้านเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน