ปีใหม่ชวดเที่ยว เขาวิหาร แม่ทัพ 2 เผย

ที่สโมสรร่วมเริงไชย ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 4 พ.ย.

พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดเขาพระวิหารเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมปราสาทพระวิหาร  และผามออีแดง ว่า ตนได้เชิญ พล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา และคณะนายทหารระดับสูงในพื้นที่ทหารภูมิภาคที่ 4 มาเยือนเมืองไทย  สำหรับสถานที่ในการรับรอง ต้องไม่ให้น้อยหน้ากัมพูชาที่ให้การรับรองคณะเราที่ไปเยือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ใช้พื้นที่ของ จ.นครราชสีมา  อาจจะมีการพูดคุยสาระสำคัญต่อเนื่องจากท่ี่ได้ไปเยือนมา ประมาณช่วงเดือนพ.ย. หรือย่างช้า กลางเดือน ธ.ค.  ขึ้นอยู่กับว่า กัมพูชาจะมีความพร้อมเมื่อใด โดยจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นเมืองคู่ขนานด้วยกันมาร่วมด้วย เพื่อจะได้ทำให้สถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งภาพเศรษฐกิจชายแดนคลี่คลาย  ฝ่ายจังหวัดเป็นคณะกรรมการอยู่ในคณะกรรมการชายแดน (อาร์บีซี) ไทย-กัมพูชา อยู่แล้ว

พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อกรณี ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้การจะเปิดเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างประเทศที่อยากจะขึ้นไปชมได้หรือไม่

ต้องเรียนว่า ขณะนี้ ต้องเข้าใจว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดน มีทั้งที่เป็นปัญหาและที่อาจจะมีปัญหาเบาบาง ฉะนั้นในข้อตกลงที่ ได้พูดคุยกัน คือ จุดใดที่ยังเป็นปัญหาอยู่เราก็คงจะต้องคงสภาพนั้นโดยไม่ให้ปัญหา ลุกลาม หรือบานปลายต่อไป และจะหาวิธีการที่จะคลี่คลายปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาขณะนี้ก็คือปัญหาเส้นเขตแดนที่เป็นเงื่อนไข  คงยังไม่สามารถไปทำอะไรได้ในเรื่องปัญหาเส้นเขตแดน  เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดน ส่วนจุดที่มีปัญหาค่อนข้างจะเบาบาง  ต้องคลี่คลายปัญหาตรงนั้นให้นำไปสู่สันติสุข  ขณะนี้จุดที่จะพูดคุยกันคือ บริเวณช่องสะงำ จ.สุรินทร์  จุดผ่านแดนถาวร แต่การเข้า – ออก ยังมีเงื่อนไข หลายอย่าง จึงเสนอจับมือร่วมกันบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ใช้ลักษณะของการจัดระเบียบพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่ไปข้องเกี่ยวหรือ กระทบต่อเรื่องเส้นเขตแดน  ให้การไปมาหาสู่ของประชาชนหรือการค้าขายตรงช่องสะงำ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสามารถที่จะเป็นไปตามกลไกของกฎหมายที่มีอยู่ โดยมีบุคลากร  เจ้าหน้าที่ เช่น ศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้ามาประจำอยู่ตรงนั้น  การจัดระเบียบอาจต้องกำหนดเป็นเขตหรือจุดที่ จะเข้า-ออก กันเป็นประจำ เพราะขณะนี้ มีความสับสน ยุ่งยากมาก แม้แต่การจัดระเบียบร้านค้า ก็เป็นปัญหาเช่นกัน คาดว่าจะใช้เวลา  6 เดือน โดย ฝ่ายกัมพูชาเขาก็ยินดีจะให้ความร่วมมือ

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวย้ำกรณีประชาชนนักท่องเที่ยวจะขึ้นไปเที่ยวชมเขาพระวิหารในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า  เนื่องจากสถานการณ์ภายในของไทยยังไม่นิ่ง ยังไม่สงบ

ฉะนั้นด้านเขาพระวิหาร คงยังต้องรักษาสถานการณ์หรือสถานภาพตรงนี้ไปก่อน เพราะยังมีความตรึงเครียดกันอยู่ ส่วนจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ขณะนี้ท่าทีต่างๆได้ผ่อนคลายลงไปแล้ว เพราะเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญของทั้งสองประเทศ จึงมีความคิดเห็นร่วมกันว่าจะจัดระเบียบพื้นที่ชานแดนให้ได้  เพื่อเป็นการนำร่องในการจัดระเบียบจุดอื่นๆต่อไป