ชวลิตลงใต้แล้ว ปัดเป็นกบฎตั้งรัฐปัตตานี

พล.อ.ชวลิต ออกเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ลั่น ม่ได้เป็นกบฏหลังเสนอตั้งนครปัตตานี ด้านรองฯสุเทพ ขอบคุณแต่ยืนยัน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางออกจาก กทม. เพื่อลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วโดย พล.อ.ชวลิต เปิดเผยก่อนออกเดินทาง ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะไปพบปะผู้นำชุมชนต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึง 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ที่เป็นพื้นที่กฎอัยการศึก รวมถึงตัวแทนจากประชาสังคมต่างๆ เพื่อหารือแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตนจะนำเสนอนโยบายจัดตั้งนครปัตตานี ต่อผู้นำแต่ละท้องถิ่นเพื่อรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธ ไม่ได้เป็นกบฏตามที่ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ความเห็น โดยระบุว่า ตนเข้าใจว่า นายเทพไท เป็นห่วง แต่ตนก็ยืนยันว่าตนหวังดีจะช่วยแก้ปัญหา เพราะขณะนี้รัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด อีกทั้งแนวความคิดดังกล่าวนั้น ก็เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อน อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้ส่งจดหมายเทียบเชิญบุคคลสำคัญหลายคน อาทิ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จากพรรคมาตุภูมิ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.พรรคมาตุภูมิ น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอะส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน และ นายเด่น โต๊ะมีนา อดีต ส.ว.ปัตตานี ซึ่ง พล.อ.สนธิ และ นายอารีเพ็ญ ได้ปฏิเสธเข้าร่วมแล้ว


รองนายกฯสุเทพ ขอบคุณ ชวลิต เสนอตั้ง นครปัตตานี แต่ยืนยัน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย
เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันนี้ พร้อมกับเสนอแนวคิดการจัดตั้ง นครปัตตานี ว่า ต้องขอบคุณที่ พล.อ.ชวลิตได้แสดงความคิดเห็น แต่ตนก็ยังไม่เข้าใจในรายละเอียด จึงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยต้องศึกษาว่าข้อเสนอดังกล่าว เป็นอย่างไร ขณะที่หากจะให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเอกเทศ ก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะประเทศไทยเป็นรัฐเดียวพร้อมกับมองว่า การเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต เป็นการปฏิบัติเตรียมรุกทางการเมือง ซึ่งตนไม่ติดใจ แต่ขอร้องอย่าทำให้ประชาชนสับสน หรือทำให้ประเทศชาติเสียหาย และอย่านำประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้ความจริงกับประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่ พล.อ.ชวลิต เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็น
รองนายกรัฐมนตรี ในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ไม่เห็นว่า พล.อ.ชวลิต จะมีความคิดที่พิเศษ แต่ขณะนี้
อาจจะคิดได้ ก็ไม่ควรประมาท


อารีเพ็ญ หนุนแนวคิดตั้ง นครปัตตานี ของ พล.อ.ชวลิต

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า การเสนอตั้งเขตปกครองพิเศษ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพราะว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ในการแก้ปัญหาความไม่สงบ แต่คงจะไม่ทำให้สถานการณ์ยุติในทันทีทันใด เพราะกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น มีหลายกลุ่ม ซึ่งคนที่ออกมาคัดค้านน่าจะยังไม่เข้าใจหลักการ ส่วนแนวคิดตั้ง นครปัตตานีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยนั้น เชื่อว่า น่าจะเหมือนกับ กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบได้ พร้อมกันนี้ เชื่อว่า พล.อ.ชวลิต คงหวังดีกับบ้านเมือง เพราะแนวคิดดังกล่าวนี้ พล.อ.ชวลิต ได้คิดมานานแล้ว

นอกจากนี้ นายอารีเพ็ญ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเลือก หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ว่า พรรคมาตุภูมิ เตรียมประชุม
กรรมการบริหารพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในเร็วๆ นี้ สำหรับสมาชิกพรรคนั้น ล่าสุด มีจำนวนกว่า 5,000 คน แล้ว
รวมทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ด้วย


ชวลิตแวะพูดคุยกับคนเสื้อแดงสงขลา ที่มาต้อนรับก่อนนั่งรถไปปัตตานีแล้ว

การเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นครั้งแรกของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในฐานะ ประธานพรรคเพื่อไทย
เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยทันทีที่เดินทางถึง
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา มีกลุ่มผู้นำศาสนา นักการเมืองท้องถิ่น และเครือข่ายคนเสื้อแดงใน จ.สงขลา และนักเรียน
กว่า 200 คน ไปรอรับถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ พร้อมมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ พล.อ.ชวลิต โดย พล.อ.ชวลิต
ได้เดินพบปะทักทายกับผู้ที่มาต้อนรับ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งต่างตั้งความหวังที่จะให้ พล.อ.ชวลิต ลงมาแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และให้กำลังใจในการลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ซึ่ง พล.อ.ชวลิต พูดเพียงสั้นๆว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ใช้เวลาพบปะกับกลุ่มที่มาต้อนรับราว 20 นาที พล.อ.ชวลิต พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยัง จ.ปัตตานีทันที ด้วยรถยนต์ โดยการเดินทางมาครั้งนี้ ไม่มีกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือ กลุ่มพันธมิตร จ.สงขลา มากดดันแต่อย่างใด