ถกแก้ไขปัญหาใต้-หารือใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ใน 4 อำเภอของสงขลา ปัดคุยเรื่อง'บิ๊กจิ๋ว'เดินสายประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.20 น. ที่บ้านพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมหารือกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงหารือดังกล่าวว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับมุมมองและปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะมุมมองของเจ้าหน้าที่กับประชาชนนั้นต่างกันจึงได้เชิญผู้ที่คลุกคลีอยู่ในภาคประชาชนมาหารือกันทั้งเรื่องการดูแลสิทธิของประชาชนที่ต้องมีการปรับปรุง และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลในเรื่องสิทธิของประชาชน นอกจากนั้นในการหารือยังได้พูดคุยเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวถามว่าโฆษก กอ.รมน.ไม่เห็นด้วยกับการใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เพราะไปริดรอนการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าคงเป็นความห่วงใยมากกว่าและหลักการจริงในเรื่องนี้คือต้องการปรับอำนาจลงมาซึ่งได้มีการหารือกับทุกฝ่ายแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเสนอจะใช้เรื่องเขตปกครองพิเศษ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการคือต้องการให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงมากขึ้นในการบริหารอำนาจของตัว และในเรื่องการกระจายอำนาจนั้น รัฐบาลดำเนินการในรูปแบบปกติอยู่แล้ว พร้อมกันนั้นกำลังจะมีกฎหมายใหม่และมีรูปแบบการบริหารใหม่ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการที่มีความพิเศษเช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งนี้การทำงานก็จะสอดคล้องกันแต่คำว่าเขตปกครองพิเศษก็มีปัญหาอยู่เสมอเพราะมีความเข้าใจต่างกันไป แต่ของเรานั้นต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และยืนยันว่ารัฐบาลมีแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้อย่างชัดเจนเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 2-3 ปี อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีกำหนดการที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี ยังได้ปฎิเสธด้วยว่า ในการหารือครั้งนี้ไม่ได้มีการหารือเรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ยงยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยจะเดินทางประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศมาเลเซียและพม่า และยืนยันว่าปัญหาระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาและชี้แจงตลอดเวลา.