ปชป.โบ้ยแม้ว-นปช.ฉุดศก.ดิ่ง

เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการศึกษาพบว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 มีแนวโน้มเป็นบวก มีดัชนีชี้ชัด 6 ตัว คือ

1. ภาคธุรกิจ
2. ยอดการขอการส่งเสริมการลงทุนทะลุถึง 4 แสนล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจจากจีน และฮ่องกงที่จะเข้าขอการส่งเสริมการลงทุนในปี 2553 คาดว่า จะทะลุถึง 5 แสนล้านบาท
3. ดัชนีการผลิต
4. การใช้จ่ายภาครัฐ
5. การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และ
6. การปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่เริ่มเป็นบวกในไตรมาส 3

ดังนั้น คาดว่า ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เดิมคาดว่าในปี 2553 จะอยู่ที่ 3-5 เปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มเป็น 3-5.3 เปอร์เซ็นต์

นพ.บุรณัชย์กล่าวอีกว่า แต่พรรครู้สึกเป็นห่วงในปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อการปรับตัวเศรษฐกิจไม่บรรลุตามเป้าใน 3 ประเด็นคือ

1.จะมีการดึงประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นเครื่องมือ ความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศจะได้รับผลกระทบ
2.การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยืดเยื้อถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นการประกาศข่าวร้ายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ทำให้ยอดการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลดังกล่าวลดลง
3.การประกาศใช้สื่อแขนงต่างๆ เรียกแขกให้คนเข้าชมช่องต่างๆ เพื่อปลุกระดมสร้างความขัดแย้งทางการเมือง โดยในการทวิตเตอร์ และการพูดผ่านวิทยุชุมชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีข้อความกระทบต่อสถาบันโดยตลอด เป็นการปลุกระดมเพื่อล้มล้างรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจไม่สำเร็จได้

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ประกาศชุมนุมบยืดเยื้อในเดือนธันวาคม

พร้อมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและบ้านสี่เสาเทเวศร์ และล้มรัฐบาลนั้น ขอบอกไปยังนายจตุพรว่า อย่าทำตัวเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ เพราะการประกาศโดยไม่มีเหตุผลในความผิดชอบรัฐบาลชุดนี้ ถือว่าเป็นความต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจให้กับฝ่ายคนของตนเองขึ้นมาใช้อำนาจรัฐแทน