ความคืบหน้ากรณี 6 พนักงานรถไฟสังกัดแขวงรถจักรหาดใหญ่ ประกอบ นายวิรุฬ สะแกคุ้ม นายประชาวิวัฒน์ บัวศรี นายสาโรจน์ วรรคจันทร์ นายธวัชชัย บุญวิสูตร นายสรวุธ ห้อทองคำ และนายนิตินัย ชัยภูมิ ซึ่งการรถไฟมีคำสั่งไล่ออกเหตุขัดขวางการเดินรถและยึดหัวรถจักร ล่าสุดพนักงานทั้ง 6 คนรับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วพร้อมกับเตรียมรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวเพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมเพราะไม่ได้ปฏิบัติตามที่ถูกกล่าวหา และคำสั่งดังกล่าวขัดกับข้อเท็จจริงที่ทางพนักงานและสมาชิกสหภาพฯหาดใหญ่ เคลื่อนไหว ทั้งข้อกล่าวหายึดรถจักรและขัดขวางการเดินรถ เพราะเป็นเพียงการรอซ่อมบำรุงระบบความปลอดภัยจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า ในส่วน ของพนักงาน พ.ข.ร ที่มาจากบางซื่อ และช่างเครื่องของฝ่ายสหภาพฯทางภาคใต้ที่มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนของ สภ.หาดใหญ่ เรื่องการละทิ้งงานของพนักงานสหภาพการรถไฟฯที่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องอ้างถึงความไม่ปลอดภัยของหัวรถจักรและหยุดเดินรถ
โดยเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนก็ได้แค่ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายมาตราแรงงานของรัฐวิสาหกิจและความผิดอาญามาตราที่166 โดยขั้นตอนของกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2542ได้ระบุไว้ว่า การป้องกันและปราบปรามในด้านการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องทำการสอบสวนประมวลตำแหน่งหน้าที่การงาน ให้ได้ความชัดเจนมากที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อนำเรื่องทั้งหมดส่งให้กับ ปปช. ที่มีหน้าที่สอบสวนชี้มูลเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เสร็จภายในระยะเวลา 30 วัน
จากนั้นทาง ปปช.พิจารณาแล้วว่ามีมูลความผิด ปปช. ก็จะพิจารณาเอาผิดตามข้อกฎหมาย หากผิดด้านตำแหน่งหน้าที่ ปปช.จะมีคำสั่งมาที่ต้นสังกัดให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษได้เลยโดยไม่ต้องมาสอบสวนอีก ทำตามที่ ปปช.ชี้มูลความผิดได้เลย
ส่วนด้านอาญาจะมีการสอบสวนฟ้องศาลเลยโดยไม่ต้องมีการไตร่สวนนั้นคือ อำนาจของ ปปช. เพราะฉะนั้นพนักงานสอบสวนไม่สามารถเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในชั้นนี้ได้.