บิ๊กจิ๋วเมินร่วมงานหนังสือพิมพ์คนเสื้อแดง

คมชัดลึก : "บิ๊กจิ๋ว” ย้อนรัฐบาลอย่ารีบตัดสินใจว่าขายชาติ โวยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมานาน สวนคนด่าเคยทำอะไรเพื่อชาติบ้างหรือยัง เผย “ทักษิณ” ปัดไม่ขอพักพิงเขมร หวั่นทำสัมพันธ์ “ไทย-เขมร” ร้าว ยังภารกิจสำคัญทำชาติสมานฉันท์ ลั่นทนไม่ได้เห็นประเทศชาติเละเทะ โวยจะนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประเทศ พร้อมคุยขอเวลา 1 ปีสลายความขัดแย้ง เผย ชวน “บิ๊กบัง” แก้ปัญหาไฟใต้ 3 พ.ย.นี้

 (30ต.ค.) พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวถูกโจมตีภายหลังเดินทางกลับจากการพบปะกับ สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา ว่าเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน พร้อมกับโชว์เอกสารที่ นายอิทธิเดช แก้วหลวง ประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอมาให้ในการเดินทางไปพบ สมเด็จ ฮุน เซน ว่า เป็นจุดมุ่งหมายในชีวิต เรามีชีวิตที่จะต้องทำให้กับประเทศชาติ และราชบัลลังก์ วันนี้คนไทยมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการเดินทางไปกัมพูชาไม่มีอะไรผิดแผกเป็นการปฏิบัติภาระหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เพื่อแผ่นดิน ส่วนที่มีการมองว่าเป็นการชักศึกเข้าบ้านนั้น คงเป็นข้อห่วงใยของรัฐบาล ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา ว่าการเดินทางไปจะนำสิ่งไม่ดีไปบอกหรือไม่ ดังนั้นอย่าไปห่วงเมื่อรัฐบาลเตือนมาก็รับฟังกันไว้ การเดินทางไปกัมพูชาไม่มีใครมอบหมายตนให้เดินทางไป แต่ได้รับการร้องขอจากน้อง ๆ ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการ ที่ได้ประสานมา ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถือเป็นเจตนาที่ดีที่ต้องทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

 “ความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกอย่างจบแล้ว และสิ่งที่ผมอยากเห็น และสิ่งที่สมเด็จ ฮุน เซน เสนอคือการถอนกำลังทางทหารของทั้งสองฝ่าย แต่พื้นที่ตรงนั้นเป็นความขัดแย้งอยู่จึงไม่มีใครถอนกำลังทหารออกได้ ทำให้ต่างคนต่างไม่สบายใจ แต่ประชาชนทั้งสองชาติยังรักกันดีอยู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน รวมไปถึงการค้าขายตามแนวชายแดนที่พี่น้องชาวกัมพูชาอยากได้ใช้ของประเทศไทยอยู่ ส่วนที่รัฐบาลเกรงว่าการเดินทางไปกัมพูชาจะนำปัญหาให้กับประเทศไทยนั้น ผมทำงานให้ประเทศชาติ ให้แผ่นดิน สนองพระเดชพระคุณตั้งแต่ปี 2497ทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่เป็นห่วงผมมันเกิดขึ้นหรือยัง และมันยังไม่เกิดอย่าไปว่าเขา คิดไม่ได้หรือว่า พล.อ.ชวลิต ทำอะไรให้บ้านเมืองมาบ้าง และก่อนที่จะมาชี้หน้าว่าเราขายชาติคิดซักนิดไม่ได้หรือ ถ้า พล.อ.ชวลิต ขายชาติ แล้วคนที่พูดทำอะไรให้กับชาติบ้าง แต่พูดแบบนั้นก็คงไม่ดี เพราะเขาห่วงเรา ซึ่งเราทำงานใหญ่ต้องเปิดใจและยอมรับ” พล.อ.ชวลิต ระบุ

 เมื่อถามว่า การเดินทางไปเยี่ยมประเทศเพื่อนบ้านครั้งต่อไป ทั้งประเทศมาเลเซีย และ ประเทศพม่า จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า สนุกแน่ เพราะเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย ความจริงรู้จักกันมานาน ซึ่งเรามีความผูกพันกัน ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย เราก็จะไปบอกว่าคนกันเอง “กากี่นั้ง” มาเป็นเพื่อนกันดีกว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้เข้าใจกันว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปพำนักที่ประเทศกัมพูชานั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ได้ถามคนที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ประเทศดูไบจะไปอยู่ทำไมมันอากาศร้อนจะตาย มาอยู่ที่กัมพูชาดีกว่า ตนเคยถามว่าทำไมไม่มาอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกผ่านคนอื่นมาว่าไม่อยากสร้างปัญหาให้กับประเทศทั้งสอง ซึ่งถือเป็นความคิดที่ดี และน่ารัก และที่ตนถามเพื่อทดสอบจิตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคิดอย่างไร ดังนั้นช่วยกันพิจารณาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนอย่างไร

 “แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยากให้ทั้งสองประเทศเกิดปัญหากัน ซึ่งไม่ห่วงในเรื่องความสัมพันธ์ของทหารไทย และทหารกัมพูชา เขารักกัน แม่ทัพภาคที่ 2 และ แม่ทัพของกัมพูชา ผูกพันกัน รักกัน แม้ว่าฝ่ายการเมืองจะติดขัดกันนิดหน่อยก็ตาม ซึ่งการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา รู้หรือไม่เมื่อ 10-20 ปีก่อน มีนายคนหนึ่ง (ซกเยือน) หนีคดีฆาตกรรม สมเด็จ ฮุน เซน จากกัมพูชา มาหลบอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งประเทศกัมพูชาก็ส่งหมายมายังประเทศไทยเพื่อขอตัวกลับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่านายคนนั้นไปอยู่ที่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไรหรอกพี่น้องอย่าตกใจอะไรมาก ส่วนแนวที่เสนอไปรัฐบาลยังปฏิเสธอยู่นั้น ถ้าปฏิเสธก็จะต้องบอกด้วยว่าจะให้ทำอย่างไรไม่ใช่ว่าจะไปทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ผมอยากรู้ว่าจะเอาแนวทางใหม่อย่างไรดี เพราะเราเห็นว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่เราคิดว่าท่านคงจะมีความคิดอยู่แล้ว อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะมีอะไรที่ไม่ดี” พล.อ.ชวลิต กล่าว

 เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าภารกิจที่เดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านจะทำให้เกิดความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนบอกวันแรกที่เข้ามาทำงานทางด้านการเมืองกับพรรคเพื่อไทยว่าตนจะไม่รอดูเหตุการณ์ที่กำลังพัฒนาในประเทศไทย และจะไม่ทิ้งประเทศไทยเพราะเราเป็นข้าในแผ่นดินนี้ เราต้องทำแผ่นดินนี้ให้เกิดความสงบ นี่คือภาระหน้าที่ของพวกเราที่ได้รับการอบรมสั่งสอน และเราเคยทำให้ประเทศนี้ประสบความสงบสุขมาแล้ว เราคงไม่อยากปล่อยให้มาเละเทะในช่วงนี้มันทนไม่ได้ แต่ก็รอว่าจะมีผู้ใดจะเสนอแนวทางหรือวิเคราะห์ปัญหาของชาติ วันนี้มัวแต่ดูเรื่องรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนรัฐธรรมนูญเป็นยาวิเศษในการแก้ไขปัญหา รัฐธรรมนูญมี 18 ฉบับยังไม่พอสำหรับคนไทย จะเอาซักกี่ฉบับนี่คือสิ่งที่ห่วงใยในฐานะที่ผ่านงานด้านนี้มา

 “ผมเห็นว่าถ้าประเทศชาติย้ำอยู่อย่างนี้พี่น้องจะยากจน และยากลำบาก และถ้าแก้ไม่ได้ก็จะน่าละอาย เนื่องจากเหตุนี้จึงทำให้ตนเห็นว่าไม่มีคนที่จะมาวิเคราะห์ปัญหาชาติได้อย่างตรงไปตรงมาและเสนอแนวทางแก้ไข ซึ่งผมรออยู่และพยายามพูดแต่ก็ไม่เป็นผลจึงต้องเข้ามาดำเนินงานด้านการเมือง ตนอยากพูดอยู่ 5 ข้อ 1.จะทำอย่างไรที่จะลบคำพูดที่เลอะเทอะว่าพรรคนี้สีนี้คน ๆ นี้ไม่จงรักภักดี 2.แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง 3.ภาคใต้ 4.ปัญหารอบบ้าน และ 5.ความยากลำบากของประชาชน อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด ตนมีเวลา 1 ปีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เมื่อตนอายุ 79-80 ปีคงไม่ไหวแล้ว” พล.อ.ชวลิต กล่าว

 เมื่อถามว่า จะชวน พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกัน ส่วนมากเวลาคุยจะผ่านสื่อไปเสียส่วนใหญ่ หรือมีคนสื่อให้ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน อดีตประธาน คมช. มาจับมือเพื่อพัฒนาประเทศชาติหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พล.อ.สนธิ เป็นคนน่ารัก เป็นคนตั้งอกตั้งใจทำงาน ตนได้ส่งหนังสือเชิญ พล.อ.สนธิ ลงไปในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เพราะการแก้ไขจะต้องแสดงถึงความสมานฉันท์ แสดงออกถึงการอโหสิกรรมกันมีจุดร่วมตรงกันเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนที่ พล.อ.สนธิจะเล่นการเมืองนั้น ตนขอแสดงความชื่นชมที่เลือกหนทางนี้

"บิ๊กจิ๋ว"เมินร่วมงานหนังสือพิมพ์คนเสื้อแดง

 ช่วงเย็นวันนี้(30ต.ค.)ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ซึ่งมีนายวิบูลย์ แช่มชื่น อดีต ส.ว.กาฬสินธุ์ เจ้าของและบรรณาธิการจัดงานดินเนอร์ทอล์ค “ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย โดยสันติวิธี” จำหน่ายบัตรในราคา 300 - 800 บาท ด้วยการเชิญนักการเมืองจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นอดีตส.ส.ไทยรักไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร , พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ , นายจักรภพ เพ็ญแข  มาปราศรัยเพื่อระดมทุนให้กับหนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์

 โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ พล.อ.ชวลิต จะขึ้นเวทีปราศรัย เปิดใจครั้งแรกถึงสาเหตุในการหวนกลับเข้ามาสู่วงการเมือง และร่วมพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านระบบวีดีโอลิงค์ ในเวลา 20.30 น. แต่ปรากฎว่า เมื่อถึงเวลาดังกล่าว กลับไร้เงาพล.อ.ชวลิต และบรรดานักการเมืองคนดังทั้งหลาย มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ วีดิโอลิงค์ ที่จะเข้ามาตามลำพัง ในเวลา 21.00 น.