ฟ้องศาลเลิกจ้าง"สาวิทย์-พวก"5คน มท.3แจงเบื้องหลังคุยสหภาพ
ร.ฟ.ท.ฟ้องศาลแรงงานเลิกจ้างพร้อมพวกรวม 5 คน "สาวิทย์"ขอรอคำสั่งการไล่ออกพนง.อย่างเป็นทางการ "โสภณ"ชี้รถไฟป่วยเข้าขั้นโคม่า จำเป็นต้องใช้ยาแรง ปัญหาสุกงอมเกินเจรจา เล็งชวนจีนลงทุนรางคู่-ความเร็วสูง "ถาวร"ปัดขโมยซีน อ้างเป็นส.ส.ในพท.ต้องการช่วยชาวบ้าน
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯร.ฟ.ท. กล่าวว่า วันนี้ (30 ตุลาคม) ร.ฟ.ท.ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแรงงานกลาง เพื่อขอเลิกจ้างพนักงานในสังกัดฝ่ายช่างกล รวม 5 คน คือ 1)นายสาวิทย์ แก้วหวาน พนักงานช่างฝีมือ 5 และประธาน สร.ร.ฟ.ท. 2)นายธารา แสวงธรรม พนักงานรถจักร 6 3)นายเหลี่ยม โมกงาม พนักงานขบวนรถ 5 4)นายสุพิเชฐ สุวรรณชาตรี พนักงานรถจักร 6 และ 5)นายอรุณ ดีรักชาติ พนักงานรถจักร 6 และอีกหนึ่งคนจะยื่นฟ้องในคราวต่อไปคือ นางสุนันทา สว่างแก้ว ซึ่งการฟ้องนั้นจะมีการเรียกค่าเสียหาย จำนวน 70 ล้านบาท ไปด้วย
"ข้อหาที่ใช้ประกอบการขอเลิกจ้างคือ ทำผิดข้อบังคับ โดยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง คาดว่ากระบวนการทางศาลจะได้ข้อสรุปในเวลา 3-4 เดือน และ ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อยื่นฟ้องขอเลิกจ้างพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า" นายยุทธนากล่าว
ด้านนายสาวิทย์กล่าวว่า สร.ร.ฟ.ท.ยังไม่ได้กำหนดท่าทีใดๆ เพราะต้องรอคำสั่งการไล่ออกพนักงานอย่างเป็นทางการก่อน เท่าที่สอบถามพนักงานที่มีรายชื่อถูกไล่ออก และถูกฟ้อง ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคยังไม่มีใครรับทราบคำสั่งไล่ออก หรือคำสั่งศาลแต่อย่างใด
"โสภณ"ยันใช้ยาแรงกับรถไฟ
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ถึงการแก้ปัญหาในองค์กรการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่าขณะนี้องค์กร ร.ฟ.ท.ถือว่าเป็นคนป่วยที่เข้าขั้นโคม่า หมอจะต้องให้ยาแรงที่ตรงกับโรค หากวินิจฉัยผิดก็จะต้องรับผิดชอบ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวว่าใครจะโดนออกหรือไม่โดนออก อยู่ที่คนในองค์กรจะต้องเคารพกฎเกณฑ์ ใครถูกลงโทษถือว่าแล้วแต่กรรมที่ใครทำอะไรกันไว้ ส่วนที่นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) เสนอให้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายขึ้นมาแก้ปัญหานั้น มองว่าขณะนี้เลยจุดที่จะต้องตั้งคณะกรรมการแล้ว เพราะปัญหาสุกงอมแล้ว
นายโสภณยังขอร้อง สร.ร.ฟ.ท.ที่อาจจะนัดการชุมนุมภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อต่อสู้กรณีที่ถูกไล่ออกว่า อย่าถลำลึกมากไปกว่านี้ แต่ควรจะหันมาพัฒนารถไฟร่วมกัน ขณะนี้ประชาชนกำลังรอดูว่าการแก้ไขปัญหารถไฟจะออกมาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทุกเรื่องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หากมาเกี่ยวข้องก็ไม่ควรทำให้ประชาชนเดือดร้อน
"ผมอยากถามเหมือนกันว่า ทำไมภาคอื่นไม่เห็นมีปัญหา แล้วทำไมมามีปัญหาที่ภาคใต้ภาคเดียว ก็ไม่เข้าใจ และยืนยันว่านายถาวร (เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเจรจากับ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่) ไม่ได้มาหารือกับผมก่อน ผมมารู้ก็ไปคุยกันเสร็จแล้ว ทั้งที่กระทรวงคมนาคมกำลังแก้ปัญหาอยู่ เพราะหากแก้ไขปัญหาด้วยการไปรับปากตามที่ สร.ร.ฟ.ท.ต้องการ เรื่องนี้ก็จบไปนานแล้ว แต่ที่ล่าช้าเพราะกระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ผมไม่อยากให้ทำเป็นมวยล้มต้มคนดู ต้องทำให้ถูกต้อง" นายโสภณกล่าว
เดินหน้าพัฒนาสู่ระบบสากล
ต่อมานายโสภณให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่ จ.บุรีรัมย์ ว่าขณะนี้ปัญหาต่างๆ เริ่มคลี่คลายแล้ว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่และพนักงานรถไฟที่ช่วยให้รถไฟเปิดเดินรถได้ครบ 100% อย่างไรก็ตาม อยากร้องขอให้พนักงานรถไฟ สร.ร.ฟ.ท. และ ร.ฟ.ท.ที่ยังมีความไม่เข้าใจกัน ให้หันหน้าเข้ามาพูดคุยร่วมกันแก้ปัญหา โดยอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาขององค์กร ส่วนการไล่ออกหรือไม่ไล่ออกพนักงานรถไฟที่กระทำผิดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ยืนยันว่าไม่ต้องการเอาชนะใคร แต่การแก้ปัญหาต้องยึดหลักกฎกติกาขององค์กรที่ตั้งไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่อยากให้แก้ปัญหาโดยเอาประชาชนที่ไม่รู้เรื่องมาต่อรอง หรือเป็นตัวประกันซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
"จะเดินหน้าเพื่อปรับปรุงพัฒนารถไฟครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้าสู่ระบบสากลเทียบเท่ากับนานาอารยประเทศที่เจริญแล้ว โดยเชิญชวนเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งผมมีกำหนดเดินทางไปจีนในเร็วๆ นี้ เพื่อเจรจาความร่วมมือระหว่างกัน ให้จีนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการระบบรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ ที่เป็นรถไฟมิติใหม่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนขบวนรถไฟที่มีอยู่เดิม จะพัฒนาปรังปรุงให้ใช้งานได้ดีกว่าปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ และขอยืนยันอีกครั้งว่าการปรับปรุงรถไฟในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะไม่มีการแปรรูปเด็ดขาด แต่จะเน้นพัฒนาปรับปรุงทรัพยากรที่การรถไฟมีอยู่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไป คาดว่าประชาชนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอีกไม่นานนี้แน่นอน" นายโสภณกล่าว
ด้านนายถาวร ชี้แจงถึงการเข้าไปเจรจากับ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ ว่าเนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ของตนโดยตรง โดยเป็น ส.ส.พื้นที่ดังกล่าว และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป.บอกให้ ส.ส.ช่วยกันคลี่คลายปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ประกอบกับรู้จักเป็นการส่วนตัวกับแกนนำ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ บางคน จึงได้ประสานงานกับนายประชานิวัติ บัวศรี รองประธาน สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ ถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะมีการนัดหมายตั้งโต๊ะเจรจาในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
"ก่อนการเจรจายังได้นั่งคุยกับแกนนำ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ ทั้งนายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธาน สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ และนายประชานิวัติ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ของรถไฟ จากนั้นจึงตั้งโต๊ะเจรจาระหว่าง สร.ร.ฟ.ท.กับผู้บริหาร ร.ฟ.ท. โดยมีผม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และผู้บัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (ผบ.พตท.) เป็นคนกลางในการเจรจา" นายถาวรกล่าว
ยันไม่ได้ขโมยซีนเอาหน้าใคร
นายถาวรกล่าวว่า ประเด็นที่หารือคือ 1.เรื่องหัวรถจักร ตกลงกันว่า หากวิศวกรหรือช่างใหญ่มาตรวจสภาพแล้วสามารถใช้การได้ ก็ขอให้นำออกมาวิ่งรับใช้ประชาชนทันที และ 2.คดีความต่างๆ ผมได้บอกกับแกนนำ สร.ร.ฟ.ท.ไปว่า คดีความต้องปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม หากทำผิด ตนหรือนายโสภณ ให้การรับรองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งทางแกนนำสหภาพก็เข้าใจ และแกนนำ สร.ร.ฟ.ท.ไม่มีการตั้งเงื่อนไขใหม่อย่างที่นายโสภณกังวล
นายถาวรกล่าวว่า ยืนยันว่าการออกมาเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่การขโมยซีนหรือเอาหน้าใคร เพราะหลังการเจรจา ก็ได้รายงานผลกับนายชวน ซึ่งนายชวนก็ยังย้ำว่า อย่าปล่อยให้ทุกอย่างคาราคาซัง ส่วนนายกรัฐมนตรีแนะนำให้โทรศัพท์ไปคุยกับนายโสภณ จึงโทร.ไปคุยเรื่องนี้กับนายโสภณ และได้รับการตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร นอกจากนี้ยังได้มอบเบอร์โทรศัพท์ให้แกนนำ สร.ร.ฟ.ท.สาขาหาดใหญ่ โทร.ไปคุยกับนายชวน ซึ่งนายชวนได้แนะนำให้หาทางแก้ปัญหา โดยการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตลอดเวลาที่หยุดเดินรถไฟติดต่อกัน 13 วัน ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ไม่เคยลงมาเจรจากับทาง สร.ร.ฟ.ท.เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ขณะที่การเดินรถสายใต้ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว โดยสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบ ทั้งเส้นทางสายสั้นและสายยาว ซึ่งปลายทางที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังหยุดให้บริการมานานกว่า 2 สัปดาห์
สหภาพฯไร้ท่าที หลังร.ฟ.ท.ฟ้องศาลฯเลิกจ้าง-เรียก70ล. สาวิทย์รอคำสั่งไล่ออกเป็นทางการก่อน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สหภาพฯไร้ท่าที หลังร.ฟ.ท.ฟ้องศาลฯเลิกจ้าง-เรียก70ล. สาวิทย์รอคำสั่งไล่ออกเป็นทางการก่อน