นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการดำเนินคดีกับขบวนการปล่อยข่าวลืออัปมงคล เพื่อทุบหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลัง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เดินทางมาพบที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ว่า รัฐบาลติดตามเรื่องนี้ และพยายามหาพยานหลักฐานมาดำเนินการกับผู้สร้างขบวนการปล่อยข่าวเพื่อสร้างความสับสนวุ่นวายในบ้านเมือง แต่กฎหมายที่จะนำมาใช้ในกรณีนี้ค่อนข้างยุ่งยาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องพยายามต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ได้รับรายงานข้อมูลมีการเชื่อมโยงไปถึงนักการเมือง หรือกลุ่มไหน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้ถาม รู้แต่ว่ามี 4-5 รายที่เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่ ทั้งนี้สาเหตุที่ตนไม่ลงไปในรายละเอียด เพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องการเมือง แต่ถือว่าคนพวกนี้ทำร้ายประเทศชาติและประชาชน จึงขอให้เจ้าหน้าที่พยายามติดตามพฤติกรรมของคนเหล่านี้ และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป เพราะเป็นการทำลายความมั่นคงของบ้านเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประชาชน แต่ยอมรับว่าเป็นกรณีที่ยากมาก
ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงการออกหมายจับบุคคลที่ปล่อยข่าวลือป่วนตลาดหุ้นไทย ว่า ยอมรับว่าขณะนี้หมายจับยังไม่เรียบร้อย ยังเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะต้องไปทำให้เรียบร้อยก่อน โดยความคืบหน้าทาง บช.ก.จะเป็นฝ่ายแจ้งความคืบหน้าเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องปั่นหุ้น หากมีเบาะแสอย่างไรก็ให้ดำเนินการเพื่อให้มีความชัดเจน และมีการขยายผลต่อไป
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบการทุบหุ้นว่า ในวันนี้ (30 ตุลาคม) เจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ประชุมแบ่งงานและกำหนดแนวทางการทำงานว่า แต่ละหน่วยต้องทำส่วนใดเพิ่มเติมบ้าง เพราะข้อมูลยังไม่ลึกพอ อีก 2 วันแต่ละหน่วยจะต้องนำข้อมูลที่ไปดำเนินการ มารายงานต่อที่ประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คณะทำงานเน้นตรวจสอบ 3 กลุ่ม ที่ ก.ล.ต.ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น แต่รายละเอียดความเชื่อมโยงเชิงลึกต้องใช้การตรวจสอบอย่างละเอียด "ในสัปดาห์หน้าเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต.จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คดีดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของดีเอสไอเต็มรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเสนอเป็นคดีพิเศษ เพราะความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นความผิดตามบัญชีแนบท้ายของ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ เมื่อเป็นอำนาจของดีเอสไอ หลังจากนี้ดีเอสไอจะใช้เครื่องมือการสอบสวนพิเศษ ตรวจสอบเครือข่าย ในรายชื่อบุคคลที่ปรากฏ รวมทั้งตรวจสอบกระแสเงิน การติดสื่อสารย้อนหลัง ระหว่างกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย" นายธาริตกล่าว
นายธาริตกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นข่าวลือ ดีเอสไอก็ตรวจสอบไปพร้อมกัน หากมีความเชื่อมโยงมีหลักฐานเชื่อว่า เกี่ยวพันกับ 3 กลุ่มต้องสงสัย จะพิจารณารวบสำนวนได้ทันที ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปก่อน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
