รถไฟ3จังหวัดใต้ อัมพาตต่อหาดใหญ่-ยะลาเลิกวิ่ง

ฝ่ายการเดินรถ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ยังไม่ประสบความสำเร็จ พยายามเปิดเดินรถท้องถิ่น ผู้โดยสารขึ้นรถรอกว่า 2 ช.ม.ไม่มีพนักงานขับ ต้องยกเลิก


ฝ่ายการเดินรถ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ยังคงพยายามเปิดเดินรถไฟ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตั้งแต่เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ได้นำขบวนรถไฟท้องถิ่น ขบวนที่ 463 หาดใหญ่-ยะลา มาตั้งขบวนที่ ชานชาลาที่ 1 เพื่อเตรียมเปิดเดินรถขบวนแรก ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้โดยสารจำนวนหนึ่ง ขึ้นไปรอเดินทาง แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เวลาผ่านไปกว่า 2 ช.ม. ก็ยังไม่สามารถเปิดเดินรถได้ เพราะไม่มีพนักงานขับ สุดท้ายต้องประกาศยกเลิกรถไฟ ขบวนดังกล่าวสร้างความผิดหวังให้กับผู้โดยสารเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดการเจรจากับทางสหภาพแกนนำรัฐวิสาหกิจรถไฟหาดใหญ่อีกครั้ง เพื่อเปิดเดินรถไฟเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเร็วที่สุด


ด้านนายสมศักดิ์ เหมฤดี ตัวแทนศิษย์เก่านักเรียนวิศวกรรมรถไฟ เปิดเผยว่า ทางศิษย์เก่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้สหภาพเปิดเดินรถไฟสายใต้ให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน หลังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด แต่ปรากฏว่า จนบัดนี้ ขบวนรถไฟยังไม่สามารถเปิดเดินจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ไปยังสถานีสุไหงโกลกได้ตามปกติ รวม 11 วันแล้ว โดยสหภาพได้เปลี่ยนประเด็นเรื่องของความปลอดภัยของหัวรถจักรดีเซล มาเป็นเรื่องของความปลอดภัยในการเดินรถในเส้นทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก ดังนั้น จึงเห็นว่าการนำเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องต่อรอง ไม่ใช่วิสัยของพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยขอให้สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ยุติการแทรกแซง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ยุติโดยเร็ว และสนับสนุนให้ผู้บริหารของการรถไฟและรัฐบาล ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า อุปกรณ์ และหัวรถจักรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความพร้อมที่จะเดินรถได้ รวมทั้ง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งทหารและตำรวจ ให้ความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่ปฏิบัติงานของพนักงาน ซึ่งการรถไฟ จะยึดตามหมายศาล ในการดำเนินการและหากใครไม่ปฏิบัติ ถือว่าขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก ส่วนการที่ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. และ เครือข่ายภาคประชาชน 16 องค์กร ให้การสนับสนุนการชุมนุมของ สหภาพการรถไฟ และพร้อมออกมาเคลื่อนไหวโดยการชุมนุมใหญ่นั้น นายยุทธนา กล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะต่างฝ่ายต่างยืนอยู่คนละด้าน และบอร์ดบริหาร มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และจากกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับพนักงานการรถไฟที่หยุดเดินรถ รวมทั้ง ผู้ว่า หากมีความผิดเกี่ยวข้อง ว่า เป็นเรื่อที่นายกรัฐมนตรี จะต้องพิจารณา แต่ยืนยันว่า ที่ทำทั้งหมด ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงวันที่ 25 ต.ค. มีทั้งหมด 41 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นค่าเสียหายจากค่าโดยสาร 29 ล้านบาท และค่าขนส่งสินค้า 12 ล้านบาท