นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จ.เพชรบุรี
ถึงกรณีทีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ปฏิเสธที่จะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ร้ายข้ามแดน หากเข้าไปลี้ภัยในประเทศกัมพูชาจริง โดยอ้างสนธิสัญญาณส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ข้อ 3 ว่า หากเป็นผู้ต้องหาในคดีการเมืองไม่สามารถส่งตัวกลับได้ ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว และกำลังจะส่งข้อมูลไปให้กับทางกัมพูชา ที่ผ่านมาก็ได้มีการส่งข้อมูลเหล่านี้ไปให้บางประเทศ
นายปณิธาน ยอมรับว่า
สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนโดยหลักการทั่วไปถือเป็นการกระทำต่างตอบแทนและเป็นเรื่องที่ประเทศต่างๆ จะพิจารณาตามอำนาจอธิปไตยของประเทศนั้น แต่ที่ผ่านมาไทยก็ได้ส่งบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปให้กับทางกัมพูชาหลายครั้ง ดังนั้น คิดว่าทางกัมพูชาน่าจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วย
เมื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับสมเด็จ ฮุน เซน ถึงการให้สัมภาษณ์และแถลงการณ์ของโฆษกรัฐบาลถึงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) ทั้งสองคนได้พบกันและคุยกับเพียงเรื่องทั่วๆไปเท่านั้น ไม่ได้หารือเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
"แต่เข้าใจว่าบรรยากาศวันนี้น่าจะดี เพราะการจากที่นายกรัฐมนตรี 2 ประเทศได้ทักทายกันเมื่อคืนวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยทั่วไปก็ดี ทั้งสองคนยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อพิจารณาจากที่มีการรายงานข่าวก่อนหน้ากับบรรยากาศระหว่างการพบปะกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมเชื่อว่าในการประชุม 1-2 วันนี้ ผู้นำทั้ง 2 ประเทศน่าจะถือโอกาสระหว่างการประชุมพหุพาคี หารือกันถึงเรื่องดังกล่าว" นายปณิธาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะแสดงจุดยืนในการออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า
การแถลงข่าวของนายอภิสิทธิ์ว่าให้เลือกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของสองประเทศ ก็เป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวที่สุดแล้ว และการที่สมเด็จฮุน เซน ไม่ได้ตอบโต้อะไร ถือว่ายอมรับคำเตือนดังกล่าว