นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องเก่าของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ถึงข่าวที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะเจรจากับพล.อ.ชวลิต ว่า
ยอมรับว่า ก่อนหน้าที่พล.อ.ชวลิต จะสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย เคยได้พบกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ แต่ไม่ได้มีข้อตกลงกันแต่หลังจากที่เข้าพรรคเพื่อไทยแล้วไม่เคยได้พูดคุยกันเลย แม้แต่ตนก็ไม่ได้เจอกันเลย หากว่าหลังจากนี้พล.อ.ชวลิต ต้องการจะเจรจากับเราก็ต้องเป็นเรื่องที่ 5 แกนนำจะพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่มีการตกลงเป็นการส่วนตัว
นอกจากนี้ นายปานเทพ ยังกล่าวถึงความพยายามจะสร้างความสมานฉันท์ของพล.อ.ชวลิต ว่า
ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องยากเนื่องจากวันนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าพล.อ.ชวลิต ไม่สามารถรักษาจุดยืนตัวเองได้ ตั้งแต่กรณีที่เคยระบุว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมได้จะต้องมองข้ามเรื่องการแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญก่อน และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2549 พรรคไทยรักไทยขณะนั้นก็เคยลงนามชัดเจนว่าต้องการแก้รัฐธรรมนูญปี 40 แต่วันนี้พล.อ.ชวลิต กลับไปยืนอยู่ข้างกลุ่มที่เรียกร้องเอารัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้จึงต้องถามถึงจุดยืนที่แท้จริง นอกจากนี้ ครั้งหนึ่งพล.อ.ชวลิต เคยเขียนหนังสือว่าสังคมไทยกำลังประสบกับภัยจากขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า แต่วันนี้ขอถามว่าพล.อ.ชวลิต เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการดังกล่าวด้วยหรือไม่ จะเห็นได้ว่าพล.อ.ชวลิต พร้อมจะเปลี่ยนจุดยืนเพื่อเอาใจพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
“ถ้าพันธมิตรฯจะเจรจากับพล.อ.ชวลิต ถือว่ายากมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ท่านไปพบสมเด็จฮุนเซน โดยเจรจาเพื่อช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถูกลงโทษด้วยคดีอาญาไม่ใช่คดีการเมือง ได้ลี้ภัย เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้ต่างชาติไม่ยอมรับในหลักนิติรัฐของประเทศไทย ทำให้การเจรจาแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหารยากมากขึ้น ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบโดยตรง พฤติกรรมเช่นนี้เข้าข่ายชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน”โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าว