ตำรวจบอกไม่ไหวแล้วครับ! วอนยึดพระราชดำรัสยุติความรุนแรง

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2549 17:56 น.

โฆษก ตร.อชิรวิทย์ วอนทุกฝ่ายยึดพระราชดำรัส ยุติความรุนแรง พร้อมแนะสื่อพาดหัวพระบรมราโชวาท ปี 35 ให้ทุกฝ่ายยุติเผชิญหน้า เลิกขายข่าวหวือหวา บอกชาวบ้านใช้เส้นทางอื่น ปล่อยสนามหลวงให้เจ้าของประเทศเขาใช้ไป

วันนี้ (6 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก ตร.กล่าวถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่เริ่มรุนแรงขึ้น และมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องยืดเยื้อ ว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าเข้าหากันนึกถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ และอยากให้ยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2535 ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเข้ารับพระราชทานกระแสพระราชดำรัส ซึ่งความตอนหนึ่งว่า ช่วยกันคิด คือ หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา เพราะว่าอันตรายมีอยู่ เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือด ปฏิบัติการรุนแรงต่อกันแล้วมันลืมตัว ลงท้ายไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วจะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทางชนะ อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือ ต่างคนต่างแพ้ แล้วที่แพ้ที่สุด ก็คือ ประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร สมมติว่า กรุงเทพมหานครเสียหาย ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่า ตำรวจเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ใช่สุนัขรับใช้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ผ่านมา มีคำกล่าวของทั้ง 2 ฝ่าย ว่า ไม่ไหวแล้วโว้ย แต่พวกตนซึ่งเป็นตำรวจ ก็อยากจะบอกเช่นกันว่า ตำรวจไม่ไหวแล้วครับ บ้านเมืองในขณะนี้ไม่มีข้อยุติ ไม่มีการพบกันครึ่งทาง ไม่มีใครถอยซึ่งกันและกันเลย ในฐานะที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อย ทำให้ตั้งแต่ ผบ.ตร.ลงมา เกือบหมื่นชีวิต ที่อดตาหลับขับตานอน วันแล้ววันเล่าสำหรับผู้ชุมนุมสามารถปักหลักยืดเยื้อ เพราะสลับสับเปลี่ยนกันไปพักผ่อนได้ แต่สำหรับตำรวจไม่สามารถพักผ่อนได้

ขณะนี้ตำรวจลำบากเหลือทน ที่ต้องบ่นก็เพราะเราก็เป็นมนุษย์ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน แล้วคนที่ไม่พักออกซิเจนในสมองจะน้อย ขาดสติได้มากที่สุด หากมีอะไรเกิดขึ้นอาจถูกตำหนิจากประชาชน เราเป็นคนกลางไม่ได้ยืนข้างใครเป็นหมาเฝ้าบ้าน ไม่ได้รับใช้ใครอย่างที่ถูกประณามหยามเหยียด ตลอด 3-4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา พ่อไม่ได้เห็นหน้าลูก เมีย ทุกคนต้องตื่นตัวกันหมด เมื่อกำลังตำรวจจากปริมณฑลไม่พอต้องไปเกณฑ์ที่อื่นมาอีก มีแต่คนอ้างว่ารักชาติ แต่ไม่เห็นมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมถอย เพื่อบ้านเมือง ต้องตายไปข้างหนึ่ง เครียดกันไปหมด ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่าย อยากให้นักกฎหมายนักวิชาการให้ไปดูรายการคนหัวหมอ เพื่อจะได้มีอารมณ์ขัน ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ยังได้เรียกร้องให้สื่อมวลชนเห็นแก่ชาติบ้านเมือง ขอความกรุณาสื่อทุกประเภทหยุดการนำเสนอที่เปิดประเด็น ที่หวือหวาที่สามารถขายได้ แต่ให้นึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก พิธีกร ผู้สัมภาษณ์ ที่ใช้คำถามที่เป็นชนวนแห่งความแบ่งแยก ขัดแย้งขยายวงกว้างมากขึ้นขอให้ยุติ ให้เสนอว่าจะหาข้อยุติกันได้อย่างไร ส่วนโพลต่าง ๆ ช่วยกรุณาทำอย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้ต่างฝ่ายหันหน้าเข้าหากันได้ หาทางออกให้เกิดสามัคคีธรรมโดยเร็วที่สุด

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่มีเรื่องมีราว ตำรวจเป็นคนกลาง รัฐบาลชุมนุมก็ต้องดู ฝ่ายต้านรัฐบาลก็ต้องดูแล เมื่อไหร่จะหันหน้ามาเจรจาเข้าหากัน อย่าเอาชนะกัน ปัญหาทุกปัญหามีทางออก ถอยกันคนละก้าวเพื่อบ้านเมือง เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนอยู่ได้ ขออนุญาตพูดแทนประชาชน 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องการให้มีการยุติ ตำรวจอย่างพวกผมได้นอนวันละ 3-4 ชม.ทั้งนี้ ขอความกรุณาผู้ที่ใช้เส้นทางการจราจรที่จะต้องสัญจรผ่านเส้นราชดำเนิน สะพานพระปิ่นเกล้า และสนามหลวง ช่วงเวลา 22.00 น.ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ส่วนผู้ที่จะไปชุมนุมขอความกรุณาอย่าขับรถส่วนตัวไป ให้ใช้รถประจำทางปล่อยให้คนที่เขาคิดว่าบ้านเมืองเป็นของเขาคนเดียวเขาใช้กันไป

ขอให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สำเหนียกไว้ด้วยว่า เคยไปเข้าเฝ้าฯ ต่อหน้าพระพักตร์ และในหลวงได้พระราชทานพระบรมราโชวาท ขณะที่รัฐบาลเองก็ควรต้องฟังด้วย ให้ช่วย ๆ กัน ขอความกรุณาสื่อให้พาดหัวพระบรมราโชวาท ข้างต้น เชื่อว่า หากใครได้อ่านก็คงต้องหยุดคิด ผมมั่นใจว่า หากไปรวมกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเผชิญหน้าคงจะมีจำนวนมากกว่าทั้งสองกลุ่มที่กำลังทะเลาะอยู่ หากไม่ยอมหยุดกันจะให้ผมถอดเครื่องแบบออกมาเรียกร้องก็ได้ นายกฯทักษิณ ก็น้องผม รุ่นของท่านเป็นลูกศิษย์ผมสอนมาทั้งรุ่น คุณสนธิ ก็เพื่อน ท่านจำลอง ก็เป็นพี่ที่เคารพ แม้แต่คุณอภิสิทธิ์เองซึ่งจบจากอังกฤษ มีหัวประชาธิปไตย เวลานี้ขอให้เห็นบ้านเมืองก่อนพรรคการเมือง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว