คมชัดลึก : กองกำลังผสม ศอ.รส.เข้าประจำการทำเนียบฯ เตรียมพร้อมรับมือม็อบแดง ให้ชุมชุมที่ ถ.พิษณุโลกเท่านั้น ด้าน ขรก.ทำเนียบฯ เผยกล้องวงจรปิดรอบทำเนียบฯใช้งานได้ปกติทุกตัว มทภ.1ส่งจนท.ตรวจระเบิดเข้มสแกนพื้นที่ก่อนแดงชุมนุม "พีระพันธุ์ ” ยันไม่ได้ดึงฎีกาเสื้อแดง
(16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าจากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯระหว่างวันที่ 15-25 ต.ค.นี้ ทางกองกำลังผสมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ได้ทยอยเดินทางเข้าประจำการภายในทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 16 ต.ค. เพื่อตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตามการจัดกองกำลังศอ.รส.ในครั้งนี้ ทั้งหมดจำนวน 41 กองร้อย แบ่งเป็นตำรวจ 23 กองร้อย ทหาร 18 กองร้อย สำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อยนั้นทางเจ้าหน้าที่จะให้ความสำคัญกำแพงโดยรอบทำเนียบรัฐบาลด้าน ถ.พิษณุโลกมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวชุมนุมกันอยู่บน ถ.พิษณุโลกได้ตลอดแนว ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ ถึงสี่แยกสวนมิกสักวัน ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ด้วยว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะมีมากจนล้นแนวถนนที่มีการคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ทางกองกำลังผสม ศอ.รส.ยังได้นำเครื่องกีดขวาง ทั้งแท่งปูน รั้วลวดหนาม วางตามแนวและจุดต่างๆที่กำหนด อาทิ บริเวณกำแพงรั้วทำเนียบรัฐบาลทุกด้าน ถนนคู่ขนานราชดำเนินนอกฝั่งติดรั้วทำเนียบรัฐบาล และยังได้จัดเตรียมรถดับเพลิง รถน้ำของ กทม.เพื่อเตรียมพร้อมรับมือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการเตรียมพร้อมรับมือครั้งนี้ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ออกหนังสือเวียนเพื่อแจ้งขอความร่วมมือจากข้าราชการทำเนียบรัฐบาลในทุกหน่วยงานให้เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมแต่อย่างใด แต่จะเป็นการบอกกล่าวกันด้วยวาจาให้ทราบถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น ในขณะที่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ทุกคนต่างทราบดีว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรในการเตรียมรับมือการชุมนุมทุกครั้ง แต่ได้ให้ทุกคนคอยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการชุมนุมในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค.นี้ด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าในวันที่ 19 ต.ค.นี้จะสามารถเดินทางเข้ามาทำงานตามปกติได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการเดินทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาลนั้น ยังคงมีความเข้มงวดมากเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีการตรวจตราบัตรผ่านของทำเนียบรัฐบาล ทั้งในส่วนของบุคคลและยานพาหนะ และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ โดยใช้เส้นทางเข้า-ออก ที่ประตูบริเวณสะพานอรทัยเพียงประตูเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของกทม.และทำเนียบรัฐบาลได้ตรวจสอบการใช้งานของกล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะบริเวณกำแพงรั้วทำเนียบรัฐบาล ด้าน ถ.พิษณุโลก ซึ่งปรากฏว่ากล้องวงจรปิดทุกตัวยังทำงานได้ดีตามปกติ
มทภ.1ส่งจนท.ตรวจระเบิดเข้มสแกนพื้นที่ก่อนแดงชุมนุม
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคมนี้ว่า ในฐานะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 1 จะรับผิดชอบดูแลความสงบในภาพรวม โดยเฉพาะความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ซึ่งเน้นให้มีความสะดวกและมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจากกองทัพภาคที่ 1 โดยพล.ต. พรจักร มนูธรรม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดตรวจค้นวัตถุระเบิดหรือชุด EOD และสุนัขตำรวจจำนวน 4 ชุด เพื่อทำการตรวจหาวัตถุระเบิดในพื้นที่ลานพระรูปทรงม้า ทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่สำคัญโดยรอบ ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่ม นปช. จะใช้เป็นพื้นที่การชุมนุมในวันที่ 17 ต.ค.นี้
“การดำเนินการดังกล่าวเป็นการป้องกันการก่อกวนหรือการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีกลุ่มเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้สถานการณ์เกิดความรุนแรง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสแกนพื้นที่ทั้งหมดให้กลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไปเกิดความมั่นใจว่า มีความปลอดภัย และไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งจากลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ยังไม่มีวัตถุต้องสงสัย หรืออะไรผิดปกติ ” แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว
พล.ท.คณิต กล่าวว่า ในการดำเนินงานให้เกิดความเรียบร้อยจะเป็นการดำเนินงานร่วมระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร ตามที่ศอ.รส.มอบหมายให้ดำเนินการ โดยในส่วนกำลังพลผู้ปฏิบัติงาน ได้มีการจัดทำแผ่นพับที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติ อำนาจหน้าที่ สิ่งที่ควร และไม่ควรในการปฏิบัติ ให้กับกำลังพลพกติดตัวเอาไว้ โดยยืนยันว่า กำลังพลทุกคน เป็นบุคคลที่เคยผ่านการปฏิบัติการดูแลควบคุมความสงบในระหว่างการชุมนุมมาแล้ว แต่ที่มีการแจกแผ่นพับ เพื่อสร้างความมั่นใจและความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติการ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า จะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีมาสร้างสถานการณ์ พล.ท.คณิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) จะเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบหลักเกี่ยวกับการติดตามเบาะแส อย่างไรก็ตามจากกรณีที่แกนนำได้ออกมาแถลงข่าว และภาพรวมที่เคยมีการชุมนุมมาก่อนหน้านี้ อยู่ในกรอบในกติกา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี จึงคิดว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา
"พีระพันธุ์"ยันไม่ได้ดึงฎีกาเสื้อแดง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงยกประเด็นการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มานัดชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.)ว่า คงไม่มีใครจะไปห้ามได้ถ้าจะชุมนุมกัน แต่ยืนยันตน ไม่ได้ดึงเรื่องให้การพิจารณากรณีดังกล่าวล่าช้า และได้เคยเร่งรัดไปด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากเนื้อหาของฎีกากลุ่มเสื้อแดง ไม่เหมือนกับกรณีอื่น ๆ ที่เคยมีมา การพิจารณาจะใช้ดุลยพินิจที่แตกต่างกับเคยปฏิบัติกับผู้ต้องโทษอื่นไม่ได้ จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาให้รอบคอบ
"ประกอบกับขั้นตอนการถวายฎีกาก็ไม่ได้ส่งโดยตรงมาที่กรมราชทัณฑ์ ทำให้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการจัดส่งไปถึงกรมราชทัณฑ์ ซึ่งขณะนี้ การพิจารณาฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงก็อยู่ที่กรมราชทัณฑ์แล้ว กระบวนการเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง และยังไม่ถึงขั้นตอนที่รัฐมนตรีต้องพิจารณาถวายความเห็น" นายพีระพันธุ์ กล่าว