สหภาพรถไฟเล่นแง่ หยุดเดินรถสายใต้-อีสานอ้างหัวรถจักรไม่สมบูรณ์ ขอซื้อใหม่ ร.ฟ.ท.เตรียมสอบวินัย

ผู้โดยสารหลายพันเซ็งรถไฟประท้วงเงียบ 20ขบวนท้องถิ่นหยุดเดินรถอ้างหัวรถจักรไม่สมบูรณ์ กลัวตกรางซ้ำรอย"เขาเต่า"ออกแถลงการณ์จี้ซื้อรถใหม่ ร.ฟ.ท.หวั่นแจ้งเท็จตั้งกก.สอบวินัยเล็งดำเนินคดีเด็ดขาด

ตลอดเช้าวันที่ 16 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟขบวนท้องถิ่นสายใต้และสายตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 20 ขบวน ไม่ออกเดินทางตามกำหนด ส่วนใหญ่เป็นรถไฟชั้น 3 และไม่เก็บค่าโดยสาร ส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนหลายพันคนที่รอใช้บริการได้รับความเดือดร้อน ต่างพากันตำหนิพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กันอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟต้องแจ้งให้ประชาชนหันไปใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ แทน เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มให้บริการได้เมื่อไหร่ จนกระทั่งช่วงบ่ายจึงเริ่มให้บริการตามปกติ แต่ก็มีประชาชนมาใช้บริการน้อยมาก เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะมีปัญหาอีกหรือไม่

สำหรับขบวนรถไฟสายท้องถิ่นที่ล่าช้าในภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง อาทิ 1.ขบวนที่ 48 สุไหงโก-ลก-สุราษฎร์ธานี 2.ขบวนที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก 3.ขบวนที่ 464 นครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก 4.ขบวนที่ 463 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโก-ลก 5.ขบวนที่ 452 สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช 6.ขบวนที่ 254 หลังสวน-ธนบุรี เป็นต้น ผู้สื่อข่าวสอบถามเหตุผลที่ล่าช้าจากนายสถานีรถไฟหลายแห่ง เช่น ยะลา หาดใหญ่ และชุมพร รับแจ้งในทำนองเดียวกันว่า ได้รับแจ้งจากฝ่ายเดินรถว่าหัวรถจักรยังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน จึงไม่สามารถนำหัวรถจักรออกมาให้บริการได้ เนื่องจากเกรงซ้ำรอยรถไฟตกรางที่สถานีบ้านเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หากซ่อมหัวรถจักรจนพร้อมใช้งานแล้วจะนำออกมาให้บริการกับประชาชนตามปกติ จึงขอแจ้งให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วไปแล้วใช้บริการได้โดยไม่ต้องคืนตั๋วแต่อย่างใด

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ระบุถึงสาเหตุของอุบัติเหตุขบวนรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า จ.ประจวบฯ ว่ามาจากความบกพร่องของพนักงาน ทั้งที่จริงๆ มาจากหลายปัจจัย เมื่อมีปัญหากลับโทษพนักงานฝ่ายเดียว ดังนั้น พนักงานจึงต้องปรับปรุงให้หัวรถจักรมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนออกเดินรถ ซึ่งอาจกระทบกับประชาชนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหารถไฟขบวนท้องถิ่นให้บริการล่าช้ากว่าปกติยังลามไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ประกอบด้วย 1.ขบวนรถ 431 แก่งคอย-ขอนแก่น 2.ขบวนรถ 433 แก่งคอย-บัวใหญ่ 3.ขบวนรถไฟดีเซลรางขบวนที่ 419 ต้นทางนครราชสีมา ปลายทางอุบลราชธานี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟรี นอกจากนี้ ยังมีรถไฟขบวนขนสินค้า รถไฟบรรทุกน้ำมันที่วิ่งจาก จ.นครสวรรค์ ไปตามจุดต่างๆ ระหว่างจังหวัดอีก 7 ขบวนไม่สามารถเดินรถได้ พนักงานขับรถไฟ (พขร.) อ้างถึงความไม่พร้อมของอุปกรณ์ กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ จึงต้องซ่อมแซมให้ดีที่สุด ไม่สามารถออกบริการ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากตกค้างอยู่ที่สถานี

หลังจากทราบเรื่อง นายยุทธนาได้สั่งการให้ผู้บริหารฝ่ายการเดินรถลงพื้นที่จุดต้นทางที่มีปัญหาทั้งหมด เช่น ชุมทางหาดใหญ่ แก่งคอย และนครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบหัวรถจักรทุกขบวนที่ถูกกล่าวอ้าง ต่อมาฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.ไปเจรจากับ พขร.จนได้ข้อยุติยอมออกให้บริการในช่วงบ่ายตามปกติแล้ว

นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. แถลงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ร.ฟ.ท.ต้องขออภัยประชาชน และเชื่อว่าจะทำให้ขบวนรถทั้งหมดกลับมาเดินรถได้ตามปกติภายในวันนี้ (16 ต.ค.) ให้ได้ 100% ส่วนการกล่าวอ้างความไม่พร้อมของหัวรถจักรจนเป็นที่มาของการไม่ออกเดินรถนั้น ฝ่ายบริหารจะสอบสวนและรายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

ข่าวแจ้งว่า พนักงานที่หยุดเดินรถโดยอ้างความไม่ปลอดภัยของหัวรถจักรนั้น หากตรวจสอบพบว่ารายงานเท็จ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย และดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาดทันที นอกจากนี้ ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว

วันเดียวกัน สร.ร.ฟ.ท.ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 9 เรื่อง "การนำรถจักร รถพ่วง ทำขบวนให้บริการประชาชนต้องเป็นรถที่มีสภาพสมบูรณ์เท่านั้น" ระบุว่า สถิติรถจักรชำรุดระหว่างทำขบวนปีละกว่า 1,500 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากหัวรถจักรมีอายุมากกว่า 14 ปี โดยที่ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข เป็นเหตุให้ขบวนรถล่าช้า วิ่งไม่ตรงตามกำหนดเวลา พนักงานขบวนรถต้องตรากตรำอ่อนล้าจากการทำงานที่ยาวนาน ทั้งหมดทั้งปวงเนื่องมาจาก ร.ฟ.ท.ไม่ซื้อรถจักรใหม่ตามที่รับปากไว้ หากการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การให้บริการที่ดีต่อประชาชนในระยะยาวครั้งนี้ ส่งผลกระทบกับประชาชน สร.ร.ฟ.ท.ขออภัยมา ณ โอกาสนี้