นปช.ลั่นชำแหละป๋าเปรม ขู่รบ.ส่งคนป่วนถกอาเซียนล่มแน่ นครบาลกลัวคาร์บอมบ์สร้างสถานการณ์

นปช.กร้าวชำแหละ "ป๋าเปรม" มีอะไรเคลือบแฝงในการเคลื่อนไหว ยันชุมชุมอย่างสงน ไม่ยกพลเยือนบ้านสี่เสาเทเวศร์ ขู่รบ.ถ้าส่งคนป่วนประชุมสุดยอดอาเซียนไม่เกิดแน่ นครบาลหวั่นคาร์บอมบ์สร้างสถานการณ์

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมรอง ผบช.น. และผู้บังคับการ (ผบก.) หน่วยงานในสังกัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจแผนการรับมือการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้งแผ่นดิน เพื่อทวงถามฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 ตุลาคม

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม บช.น.ในฐานะเจ้าของพื้นที่จึงร่วมกับหน่วยกำลังอื่นๆ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยเน้นเรื่องการป้องกันกลุ่มมือที่สามและผู้ไม่หวังดี เบื้องต้นใช้กำลังทั้งสิ้น 44 กองร้อย เป็นทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ 28 กองร้อย และตำรวจ 16 กองร้อย นอกจากนี้ยังมีกำลังเตรียมพร้อม ณ ที่ตั้งอีก 42 กองร้อย แยกเป็น ตำรวจ 15 กองร้อย และทหาร 27 กองร้อย

รายงานแจ้งว่า บช.น.ได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้นำรถทุกชนิดมาจอดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และสถานที่สำคัญย่านทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะมีการ"คาร์บอมบ์"สร้างสถานการณ์รุนแรง

พล.ต.ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ใช้แผนคำสั่งปฏิบัติการที่ 1 ในการดูแลความปลอดภัยในเขตดุสิตและพระนคร โดยกำลังทั้งหมดจะเข้าประจำตามสถานที่ต่างๆ เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา พระราชวังดุสิต และบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความไม่สงบ

"เจ้าหน้าที่จะไม่มีการหวงห้ามสิทธิของประชาชนในการชุมนุม การกล่าวปราศรัย แต่หากประชาชนจะเคลื่อนที่เข้ามาในพื้นที่ต้องห้าม เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ โดยผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท"

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ในฐานะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 1 จะรับผิดชอบดูแลความสงบในภาพรวม โดยเฉพาะความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ซึ่งเน้นให้มีความสะดวกและมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ก่อนการชุมนุมของ นปช. พล.ต.พรจักร มนูธรรม เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด หรือ ชุดอีโอดี และสุนัขตำรวจ 4 ชุด ตรวจหาวัตถุระเบิดในพื้นที่ลานพระรูปทรงม้า ทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่สำคัญโดยรอบ ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่ม นปช.จะใช้เป็นพื้นที่การชุมนุม

"การดำเนินการดังกล่าวเป็นการป้องกันการก่อกวนหรือการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีกลุ่มเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้สถานการณ์เกิดความรุนแรง ซึ่งจากลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่มีวัตถุต้องสงสัย หรืออะไรผิดปกติ"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.กล่าวถึงการชุมนุมเพื่อทวงถามรัฐบาลถึงการดำเนินการกับฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า คนเสื้อแดงจะต้องชำแหละให้เห็นไปเลยว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มีอะไรแอบแฝงอยู่ในการเคลื่อนไหวและมันไม่ดีอย่างไร โดยการชุมนุมจะเป็นไปอย่างเรียบร้อยที่สุด และจะทำทุกอย่างตามที่ได้ตกลงไว้กับทางตำรวจนครบาล ที่สำคัญคือ จะไม่มีการเคลื่อนพลไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์โดยเด็ดขาด

"หากมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลส่งคนเข้ามาป่วนการชุมนุม ก็รับรองว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด"

นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ว่า ขณะนี้ความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าวมีมากกว่า 100% ในทุกด้าน รวมทั้งผู้นำทั้งหมดต่างก็ตอบรับที่จะมาเข้าร่วมประชุม

"การประชุมวันสุดท้ายหลังการลงนามในเอกสารต่างๆ จะมีพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้กับเวียดนาม อย่างไรก็ดี ตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยจะไปสิ้นสุดในปลายปีนี้ โดยนายกรัฐมนตรีไทยยังจะต้องทำหน้าที่ประธานอาเซียนอีกครั้งหนึ่งในการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำอาเซียนกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างการประชุมเอเปค"

อธิบดีกรมอาเซียนกล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นปราสาทพระวิหารนั้นจะไม่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการประชุมครั้งนี้ ไม่ว่าจะในระดับรัฐมนตรีหรือระดับผู้นำ เพราะไทยและกัมพูชามีกลไกระดับทวิภาคีที่จะแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้เข้าสู่กลไกที่มากกว่านั้น อีกทั้งอาเซียนเองก็มีท่าทีที่ชัดเจนมาตั้งแต่การประชุมที่สิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาทวิภาคีที่ทั้งสองประเทศต้องหาทางแก้ไขเอง