รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่หวั่นถูกยื่นตรวจสอบกรณีบุตรถือหุ้นบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ และพร้อมให้ข้อมูล ระบุบุตรบรรลุนิติภาวะแล้วสามารถไปซื้อหุ้นอะไรก็ได้ ยืนยันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวบริษัทดังกล่าวมานานแล้วนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายชวรัตน์ สิ้นสุดลง เนื่องจากบุตรได้ถือหุ้นบริษัท ชิโนไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐว่า ของบุตร ซึ่งอาจทำให้ถือครองหุ้น และมีการเอื้อประโยชน์ในโครงการของรัฐ ว่า บุตรของตนแต่ละคนเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะหมดแล้ว จะไปซื้อหุ้นหรือทำธุรกรรมใด ๆ ก็ได้ ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ “เรื่องที่เกิดขึ้น เห็นว่า ยังไม่มีอะไร และผมไม่ได้เข้าไปยุ่งกับบริษัทมานานหลายสิบปีแล้ว รวมทั้งบริษัทที่ถูกกล่าวอ้าง ก็ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน เข้าตลาดหลักทรัพย์ขายหุ้นให้กับเอกชน ซึ่งบุคคลใดก็สามารถเข้ามาถือหุ้นได้ หากจะตรวจสอบ ก็ไม่มีปัญหา ทางผู้เกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะชี้แจง โดยจะอธิบายเรื่องนี้ให้เข้าใจ เพราะมั่นใจว่า การดำเนินการต่าง ๆ ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย และทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด” นายชวรัตน์ กล่าวส่วนกรณีที่กลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เสนอขอแยกตัวออกจากกระทรวงมหาดไทย โดยไปร้องที่รัฐสภานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ถ้าแยกออกไปจะเอางบประมาณจากที่ไหนมาสนับสนุน ที่ผ่านมาก็มีการเพิ่มเงินประจำตำแหน่งและสวัสดิการ เชื่อว่าน่าจะเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้จะขอฟังเหตุผลกับกลุ่มกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอไปพูดคุย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันด้วย |
|