ปฏิทินเสื้อแดง ทักษิณเป่านกหวีด...เดินแผนล้มมาร์ค

"คนเสื้อแดง" ประกาศปฏิทินการเคลื่อนไหวช่วงสิ้นปี 2552 ยาวพรืด

เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมนี้ จะเริ่มยึดเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อตั้งเวทีใหญ่ทวงความคืบหน้า 3.5 ล้านชื่อ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี

จากนั้นไปอีก 1 สัปดาห์ วันที่ 24 ตุลาคม มามาดใหม่เชิงวิชาการควบการเมือง โดยนัดสาวกคนเสื้อแดง ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว ระดมแกนนำคนเสื้อแดง-บิ๊กเพื่อไทย ร่วมเปิดวงชำแหละข่าวคราวการทุจริตคอร์รัปชั่น "รัฐบาลมาร์ค" ครั้งใหญ่ ภายใต้รูปแบบของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนอกสภา

พร้อมกับแจกแบบฟอร์มให้ร่วมลงชื่อยื่นถอดถอน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีเป้าหมายว่าภายในเดือนสิ้นพฤศจิกายน ยอดผู้ร่วมลงนามจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน??

ถัดไปอีก 20 วัน คนเสื้อแดงก็มีงานใหญ่อีก เพราะเตรียมวางฤกษ์ 14 พฤศจิกายน ปักหมุดจัดงานระดมทุนครั้งใหญ่ เพื่อขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ไร่โบนันซา เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ภายใต้ชื่อ "คอนเสิร์ตเพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ" ...เพื่อนพ้องร่วมบริจาค!!

จุดประสงค์หลักของกิจกรรมทั้งหมดก็หนีไม่พ้น "ซ้อมใหญ่" และ "เช็คกำลังพล" ก่อนเดินงานการชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ตามมติแกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาว่า การชุมนุมใหญ่ (จริงๆ) จะต้องเกิดขึ้นก่อนสิ้นปี 2552

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของ "พรรคเพื่อไทย" ที่พลิกกลับหลังหัน 360 องศา ไม่เข้าร่วมวงแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา ทั้งที่ตัวเองเคยไปร่วมลงมติเอกฉันท์ ในที่ประชุม "วิป 3 ฝ่าย" ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ตามแนวทางของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แต่พรรคเพื่อไทยจะหันกลับมาเดินหน้าทวงคืน "รัฐธรรมนูญ 2540" ทั้งฉบับ ตามคำบัญชาของ "นายใหญ่"

ฝ่ายค้านวิเคราะห์กันจนตกผลึกแล้วว่า "องคาพยพ พ.ต.ท.ทักษิณ" สามารถโค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้เสร็จก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จะแล้วเสร็จแน่นอน ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่จะเป็นเหตุให้ "รัฐบาล" นำเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปยื้อเพื่ออยู่ในตำแหน่งต่อไป

ที่สำคัญคือ การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ในการระดมสรรพกำลังเข้ามาผนึกในพรรคที่แสดงถึง "ความพร้อม" เต็มอัตราที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการมาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เตรียมการจะเข้ามารับตำแหน่ง "ประธานที่ปรึกษาพรรค" ควบ "หัวหน้าทีมยุทธศาสตร์" ที่มีทั้งอดีต จปร.7 อย่าง พล.ต.มนูญกฤติ รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา และ "พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี" รวมไปถึงอดีตเตรียมทหารรุ่น 10 เพื่อนรักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นำโดย "พล.อ.สุเมธ โพธิ์มณี" อดีตที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ซึ่งนับฝ่ายพรรคเพื่อไทยติดเขี้ยวเล็บพร้อมแล้ว

หากดูจังหวะเคลื่อนของทั้งคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยแล้วนับว่าสอดรับกันเป็นอย่างดี!!

ประกอบกับข่าวคราวการเตรียมทีมเลือกตั้งและเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว ราวกับว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในไม่กี่วันกี่เดือนข้างหน้า จึงทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วนถูกจับตามอง

กระทั่ง "พ.ต.ท.ทักษิณ" เอง ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ ระหว่างที่คนเสื้อแดงกว่า 30 คน ซึ่งบินตรงจากเมืองไทย ไปเยี่ยมเยียนที่บ้านดูไบ โดยมีผู้บันทึกการสนทนาครั้งนั้นแล้วนำมาออกอากาศ ในรายการหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิ่ลชาแนล เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ว่า "ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป รัฐบาลอภิสิทธิ์จะอยู่ต่อไปไม่ได้"

"ทักษิณ" กำลังจะบอกอะไร?

"ทักษิณ" กำลังจะบอกว่าเขาคือคนกำหนดเกมทั้งหมดเองใช่หรือไม่?

แม้ในการบันทึกการสนทนาที่นำมาออกอากาศในรายการของพีเพิ่ลชาแนลนั้น ไม่ได้ชี้แจงถึงเงื่อนไขและปัจจัยที่ทำให้เกิดความยากลำบากในการบริหารประเทศของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

แต่ความเคลื่อนไหวที่สอดคล้องของกลุ่มคนในเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ละจุด ต่างชี้ให้เห็นถึงความไม่ธรรมดา แถมยังมีการกำหนดเส้นแดงกันเอาไว้เลยว่า ต้นปี 2553 "แผนเผด็จศึก รบ.มาร์ค" ที่กระทำแบบหนักหน่วง รวดเร็ว และแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมานั้น จะต้องจบสิ้นลง

หลังจากเสร็จงานระดมทุนที่ "โบนันซา" วันที่ 14 พฤศจิกายน ไปไม่กี่วัน "สัญญาณนกหวีด" การทำงานของทุกภาคส่วนใน "องคาพยพทักษิณ" จะเริ่มต้นเคลื่อนแผน "ล้มอภิสิทธิ์" จะดังขึ้นทันที!!