ปานเทพสั่งคุมเข้ม สำนักงานป.ป.ช.

วันนี้(12 ต.ค.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณริมรั้ว สำนักงานป.ป.ช.
 
หลังจากเกิดเหตุ คงต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลความปลอดภัยอาคารสำนักงาน ป.ป.ช. มากขึ้น เบื้องต้น คงต้องติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มขึ้น ตลอดจนกำชับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลและรถยนต์ที่เข้าออกสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนสาเหตุของการลอบวางระเบิด ยังไม่ทราบว่า มาจากสาเหตุใด และไม่ทราบว่า เป็นข่มขู่การทำงานของป.ป.ช.หรือไม่ คงต้องรอผลการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยทั้งในส่วนของสำนักงาน และตัวกรรมการ ป.ป.ช. เองก็ต้องระวังเช่นกัน

นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า หลังเกิดเหตุวางระเบิดบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. กรรมการ ป.ป.ช.เอง ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง ไม่ชะล่าใจ

เพื่อความไม่ประมาท เพราะยังไม่ทราบว่าสาเหตุการลอบวางระเบิด เป็นการต้องการข่มขู่ ป.ป.ช.หรือไม่ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทำให้ ป.ป.ช.หวั่นไหว ยืนยันจะเดินหน้าทำงานอย่างตรงไปตรงมาต่อไป นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงกรณีพบวัตถุระเบิดที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการ ปปช.ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การลอบวางระเบิด ทั้งที่หน้า  ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ นั้นเป็นขบวนการข่มขู่การทำงานองค์กรในกระบวนการยุติธรรม ที่ทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต แต่กลับไม่เคยเห็น มีการไปลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สำนักงานอัยการสูงสุด 
   
"คดีการลอบวางระเบิดหน้าองค์กรอิสระต่างๆ เป็นที่น่าสนใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเป็นการภายในว่า ระเบิดที่วางไว้หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ และ เอเอสทีวี เป็นระเบิดชนิดเดียวกัน และน่าจะมาจากที่เดียวกัน จึงอยากจะฝากให้สังคมได้ช่วยกันคิด และร่วมให้กำลังใจผู้ที่ทำงานด้วยความสุจริต เพราะถ้าบุคคลเหล่านี้เกิดความท้อแท้ สังคมก็จะอยู่ไม่ได้” นายสนธิกล่าวตอนท้าย.