นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 (สทท.11)
ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ พร้อมเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ว่า พบกับสมาชิกฝ่ายค้านหลายคน ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงขนาดนั้น การทำประชามติถือเป็นสิทธิของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ พท.ก็ยอมรับ วันนี้ติดเรื่องกรอบเวลาเท่านั้น เพราะต้องให้ฝ่ายกฎหมายของ 2 สภาไปยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อให้ประชาชนได้เห็น คาดว่าจะเสนอเข้าสภาช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พท.ยืนกรานว่าถ้าทำประชามติต้องเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของรัฐธรรมนูญปี 2540 กับรัฐธรรมนูญปี 2550 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่หรอก
ตกลงกันไปแล้ว ถ้าจะมาเริ่มเรื่องปี 2540 และปี 2550 เรื่องจะไปยาว กลายเป็นว่าเป็นการถ่วงเวลา เพราะรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับต่างก็มีข้อบกพร่อง ทุกคนก็ยอมรับอยู่แล้ว เมื่อถามว่า พท.ระบุว่ารัฐบาลซื้อเวลา นายกฯกล่าวว่า "คงไม่ใช่ เพราะถ้าฝ่ายค้านไม่เปลี่ยนใจ กระบวนการคงเดินเร็วกว่านี้ ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ล่าช้าวันนี้ก็เป็นที่ฝ่ายค้าน ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเลย มีแต่ว่าผมเป็นฝ่ายไปเร่งรัดให้มีความชัดเจนและทำอยู่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าฝ่ายค้านไม่เอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระบวนการจะเดินต่อไปอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายค้านยังไม่ได้บอกอย่างนั้น
ตัวแทน พท.ยังมาประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย เมื่อถามย้ำว่า ถ้าฝ่ายค้านไม่เอาด้วย เสียงของรัฐบาลและวุฒิสภาจะพอในการผลักดันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ถ้ามีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่สอดคล้องกัน ไม่ชัดเจน ก็ไม่ต้องดำเนินการ เพราะที่ดำเนินการทั้งหมดก็เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ถ้าเดินแล้วขัดแย้ง ก็ไม่ทำ"
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าถ้าหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องยุติใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า
"คิดว่าหาเหตุผลยากที่จะเดินหน้าต่อ ถ้าหากฝ่ายพันธมิตรก็คัดค้าน ฝ่ายค้านก็คัดค้าน ก็จะไปทำทำไม" เมื่อถามว่า ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ก็เป็นเพราะ พท.ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลานี้อยู่ที่ว่าจะยอมรับตามที่เคยตกลงกันในการคุย 3 ฝ่ายเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมหรือไม่ ถ้ายอมรับก็เดินต่อ ก็บอกไปแล้วว่าจะใช้เวลาประมาณ 9 เดือน ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาก็จะช้าออกไปอีก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
