เสื้อแดงบุกประชิดมาร์คบีบล้มแผนถกสมัชชาฯ-ชาวอุบลฯ ยายไฮ ร้องหมอรำอวยพรให้เป็นนายกฯนานๆ

มาร์คต้องใช้เฮลิคอปเตอร์บินหนีม็อบเสื้อแดงมอบเงินชดเชยอ่างเก็บน้ำห้วยละห้า เจอบุกประชิดต้องล้มแผนคุยสมัชชาคนจนและชาวอุบลฯ ไปปักหลักม่วงสามสิบ "ยายไฮ" ร้องหมอรำอวยพรให้เป็นนายกฯนานๆ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์หลบกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามตามขับไล่ เพื่อไปมอบเงินให้แก่นางไฮ ขันจันทา วัย 80 ปี ชาวบ้านโนนตาล ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี กับพวก จำนวน 4.9 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นค่าชดเชยจากผลกระทบการสร้างเขื่อนห้วยละห้า อ.นาตาล เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะของนายอภิสิทธิ์ อาทิ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปถึงศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยเฮลิคอปเตอร์ลงซึ่งเป็นจุดที่นางไฮและกลุ่มสมัชชาคนจน ประชาชนในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายพันคนรวมตัวเพื่อต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าตรึงจุดต่างๆ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยกว่า 5,000 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางไฮรับมอบเช็คจากนายอภิสิทธิ์ พร้อมกับร้องเพลงหมอลำอวยพรให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ ก่อนมอบตะกร้าที่ยังสานไม่เสร็จให้แก่นายกฯนำกลับไปสานต่อให้เสร็จ นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังรับหนังสือชี้แจงปัญหาต่างๆ รวม 100 โครงการ จากกลุ่มสมัชชาคนจน 

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะคุยกับกลุ่มสมัชชาคนจนในครั้งต่อไป คืออีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และเรื่องใดสามารถลงมาพูดคุยได้ด้วยตัวเองจะลงมาคุยด้วย แต่ถ้าไม่มีเวลาจะมอบหมายให้รัฐมนตรีหรือหน่วยงานเจ้าของเรื่องมาพูดคุยแทน แต่ทุกเรื่องผมจะรับทราบหมด เพราะมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายอภิสิทธิ์ยังอยู่ในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านนั้น หน่วยรักษาความปลอดภัยแจ้งให้ทราบว่าม็อบกลุ่มเสื้อแดงราว 1,000 คน ฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งไว้รอบๆ พื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร รวม 15 จุด และเหลือระยะทางอีกไม่กี่ร้อยเมตรจะบุกประชิดศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ทำให้ทางคณะผู้ติดตามนายอภิสิทธิ์หารือประเมินสถานการณ์อย่างเคร่งเครียดในที่สุดตัดสินใจยกเลิกแผนที่กำหนดไว้เดิมพบปะชี้แจงกับกลุ่มสมัชชาคนจนและชาวอุบลราชธานีต้องล้มเลิกอย่างกะทันหัน จากนั้นเดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยัง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.ม่วงสามสิบ นายอภิสิทธิ์เป็นประธานเปิดถนนไร้ฝุ่น สาย อจ.4003 แยกทางหลวงหมายเลข 2210 บ้านตำแย จากนั้นกล่าวปราศรัยว่า

"8-9 เดือนแรกที่ทำงาน ต้องสารภาพตรงๆ ว่าไม่ง่ายเลยเศรษฐกิจก็มีปัญหารุนแรง ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้ามาเขาวัดการเติบโตเศรษฐกิจสมัยก่อนก็ลุ้นตัวเลขให้มันสูงๆ ผมเข้ามามันเริ่มติดลบแล้ว ตัวเลขทุกตัวติดลบหมดเลย ส่งออกท่องเที่ยวการเติบโตจนกระทั้งเวลาที่เขาประกาศตัวเลข ช่วงต้นๆ เป็นห่วงว่าพี่น้องจะถูกเลิกจ้าง ราคาพืชผลตกต่ำ แต่ว่าสิ่งที่เราได้เร่งทำตั้งแต่ต้นคือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจพอประคับประคองไปได้ในระยะหนึ่ง ทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะเดินหน้าทำงานทุ่มเทสานต่อเพิ่มเงินเข้าไปในโครงการ จำนำพืชผล ช่วยเหลือคนตกงานทำเรื่องของต้นกล้าอาชีพ พยายามดูแลประชาชนทุกกลุ่มเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายหรือหาทางเพิ่มรายได้เท่าที่รัฐบาลมีกำลังจะทำได้ ได้ไล่เจาะไปเป็นกลุ่มๆ โดยเอาสิ่งที่ได้มาหาเสียงกับพี่น้องเป็นตัวตั้งเริ่มต้นจากลูกหลานต้องเรียนฟรี

"ต่อไปนี้เราจะต้องมาลงทุนรวมถึงนโยบายที่ผมเคยมาประกาศที่นี้เรื่องเติมน้ำเติมราคา ปฏิบัติไทยเข้มแข็งจึงเกิดขึ้น 3 ปีข้างหน้า จะมีการลงทุนครั้งใหญ่ทั้งเรื่องแหล่งน้ำทั้งเรื่องถนน ปรับปรุงโรงเรียนปรับปรุงสถานีอนามัยเปลี่ยนแปลงเป็นโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล แล้วมีโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวโครงการอื่นๆ มากมายทั่วประเทศ ตั้งใจ 3 ปีลงทุนไปเป็นล้านล้าน สร้างงานให้คนได้ถึง 1.5 ล้านคน"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือพี่น้องทั่วประเทศมีสิ่งอำนวยความสะดวกมีโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น นี่เป็นที่มาเหมือนถนนไร้ฝุ่นที่เปิดที่ อ.ม่วงสามสิบ ไล่นับไทยเข้มแข็งตลอดทั้งโครงการใช้เงินโครงการ 4 แสนล้านบาท ตอนนี้อนุมัติไป 2 แสนล้าน อุบลราชธานีได้ไป 4 พันล้านบาท ส.ส.เอามีดจี้ข้างหลังคิดว่าจะครบไทยเข้มแข็ง 4 พันล้านบาทไม่พอต้องใช้งบฯหนึ่งหมื่นล้าน 

"กลับไปนี้ต้องไปดูเพราะว่ายังมีเรื่องของถนนสี่เลน ยังเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังมีอีกเยอะ อย่างวันนี้มาวางศิลารูปปั้นหนุมานเนื่องจากลานหนุมาน ต.นาเลิง อ.ม่วงสามสิบ มีลิงเป็นจำนวนมากและต่อไปควรเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้จะแก้ปัญหาเรื่องกองทุนหมู่บ้านจะเพิ่มเงินให้ตามขนาดของกองทุนและสมาชิกและจะขยายเวลาในการใช้หนี้เป็น 2 ปี"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ได้ทำงานในช่วง 8-9 เดือนที่มารับตำแหน่ง เนื่องจากที่ผ่านมาสื่อมวลชนเสนอข่าวการเมืองที่มีแต่ความขัดแย้ง 

"ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์กรณีการสร้างความขัดแย้ง เพราะรู้ว่าประชาชนไม่ชอบความขัดแย้ง ที่ผมให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของเหตุผลไม่ได้ไปพูดจาทะเลาะกับใคร และห้ามไม่ให้ใครไปรักใครชอบใครขนาดอยู่บ้านเดียวกันยังทะเลาะกันเลย ผมขออย่าใช้ความรุนแรงหรือทำผิดกฎหมาย เราควบคุมไม่ได้เพียงแต่ทำให้สงบ ต่างประเทศเขาเอาใจช่วยเขาไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะกัน อย่างเช่นไปล้มงานประชุมอาเซียน โอนอ่อนผ่อนให้อย่างเช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้โอนอ่อนให้ เพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง" นายกรัฐมนตรีกล่าว

เวลา 15.20 น. นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะ ออกจาก จ.อุบลราชธานี เดินทางไปถึงหอประชุมวิทยาลัยเทคนิคยโสธร อ.เมือง จ.ยโสธร มีข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม. และประชาชนจำนวน 5,000 คน ต้อนรับ นายอภิสิทธิ์กล่าวปราศรัยว่า รู้สึกภูมิใจกับเงินลงทุนตามโครงการรวมพลังปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำ ถนนไร้ฝุ่น เรียนฟรีแบบมีคุณภาพ การพัฒนาสาธารณสุข ส่วนโครงการใดดีจะทำต่อ เช่น โอท็อป

"ส่วนโครงการไทยเข้มแข็งจะใช้เงินทุกบาทให้คุ้มค่าที่สุด ใครจะคิดอะไรทำอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย" นายอภิสิทธิ์กล่าว